ตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมจีนโต 44% ตั้งเป้าศูนย์กลางเทคโนโลยีหุ่นยนต์โลก
รายงานของสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (IFR) เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเติบโตของตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในประเทศจีนที่มีการเติบโตต่อเนื่องนับจากปี 2011 โดยเฉพาะในปี 2021 ที่ผ่านมามีการเติบโต 44% หรือคิดเป็นการติดตั้งหุ่นยนต์สำหรับใช้งานในภาคอุตสาหกรรมมากถึง 243,000 ครั้ง
ข้อมูลล่าสุดในปี 2020 ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการใช้งานระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรมอยู่ในลำดับที่ 9 ขึ้นมาจากลำดับที่ 25 ในปี 2015 นับว่ามีเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงเวลาดังกล่าวจีนมีสัดส่วนหุ่นยนต์อุตสาหกรรม 246 ตัว ต่อพนักงานที่เป็นมนุษย์ 10,000 คน สำหรับประเทศที่มีการใช้งานระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติมากที่สุดในโลก คือ ประเทศเกาหลีใต้ ตามมาด้วยสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและประเทศเยอรมนี อย่างไรก็ตามการจัดอันดับขึ้นอยู่ปัจจัยอื่น ๆ เช่น จำนวนประชากร
ประเทศจีนกำลังเดินหน้าไปสู่เป้าหมายผลักดันให้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีนเป็นจุดศูนย์กลางของนวัตกรรมหุ่นยนต์ของโลก รัฐบาลจีนยังคาดว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของรายได้จากการดำเนินงานในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์จะเกิน 20% ต่อปี
รัฐบาลจีนสนับสนุนหุ่นยนต์อัตโนมัติ
ในประเทศจีนแม้จะมีจำนวนประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน แต่ปัจจุบันประชากรจีนจำนวนไม่น้อยเริ่มเข้าสู้ประชากรสูงอายุทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานและสาเหตุดังกล่าวทำให้มีการผลักดันเทคโนโลยีหุ่นยนต์อัตโนมัติ กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ประเทศจีนได้ประกาศแผน 5 ปี เพื่อความต่อเนื่องสำหรับพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมนวัตกรรมและทำให้ประเทศจีนเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม
อาชีพช่างเทคนิคหุ่นยนต์
รัฐบาลจีนมองเห็นโอกาสที่จะสร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม เมื่อมีการใช้งานหุ่นยนต์มากขึ้นจำเป็นต้องมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมและซ่อมบำรุงหุ่นยนต์ให้สามารถปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรมนุษย์และประกันสังคมประเทศจีนได้ประกาศอาชีพใหม่ 18 อาชีพ รวมไปถึงอาชีพช่างเทคนิคหุ่นยนต์เป็นอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายและจะได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนาอัลกอริทึมควบคุมและระบบปฏิบัติการสำหรับหุ่นยนต์รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการจำลองแบบดิจิทัล
ที่มาของข้อมูล therobotreport.com, ifr.org
ที่มาของรูปภาพ unsplash.com