ออสเตรเลียป่วน! รัฐเปิดศึกช่วงชิงวัคซีนต้านโควิด

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ออสเตรเลียกำลังปั่นป่วนจากการเปิดศึกชิงวัคซีนต้านโควิด-19 ระหว่างรัฐ หลังจากนางแกลดีส์ เบเรจิคเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐใหญ่สุดของออสเตรเลีย แถลงเมื่อ 23 กรกฎาคม เรียกร้องให้รัฐบาลกลางจัดส่งวัคซีนมาให้กับนครซิดนีย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ก่อน ส่งผลให้มีเสียงคัดค้านจากรัฐอื่นที่ต่างสิ้นหวังในการสกัดไวรัสเช่นกันในทันที

ผู้ติดเชื้อโควิดในนครซิดนีย์ พุ่งสูงขึ้นเป็นเกือบ 1,800 รายนับจากกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ชี้ว่าเป็น ”สถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ”

“เรารู้ว่าบางพื้นที่ในออสเตรเลียมีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยมากหรือไม่มีเลย เราต้องการให้ประชาชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราร้องขอให้ ให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ” มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าว

ความเห็นของนางเบเรจิคเลียนได้จุดเสียงคัดค้านจากรัฐอื่นที่ไม่เต็มใจจะแบ่งปันวัคซีนไฟเซอร์ให้ โดยนายแดน แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกเตอเรีย กล่าวว่า เราต้องระวังให้มากเมื่อพูดถึงการลำดับความสำคัญ

โดยรัฐวิกตอเรีย ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม ได้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมาในวันเดียวกันนี้อีก 14 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในนครเมลเบิร์น

ด้านนายสตีเวน มาร์แชลล์ มุขมนตรีรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ที่ถูกล็อกดาวน์อยู่เช่นกัน กล่าวว่า ตนไม่ต้องการส่งวัคซีนของเราให้ที่อื่น

อย่างไรก็ดีประเด็นการจัดสรรวัคซีนนี้ จะมีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีออสเตรเลียในวันเดียวกัน

จนถึงขณะนี้ออสเตรเลีย มีประชากรในวัยผู้ใหญ่เพียงแค่ 15% เท่านั้น ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ขณะที่การฉีดวัคซีนที่ล่าช้าส่วนหนึ่งเป็นผลจากคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับอาการไม่พึงประสงค์เรื่องลิ่มเลือดอุดตัน ที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนต้านโควิดของแอสตร้าเซนเนก้าบางราย