DELTA ฉุด SET ย่อตัว แต่ Downside จำกัด-จับตาเงินหมุนเข้าหุ้นใหญ่

คุณณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 10 ตุลาคม 2568 โดยระบุว่าการปรับตัวลงของ SET Index ในช่วงนี้มีสาเหตุหลักมาจากการที่หุ้น DELTA ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศติดเกณฑ์กำกับการซื้อขายระดับสูงสุด (Trading Alert) ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงและกดดันดัชนีโดยรวม
คุณณัฐพลได้เปรียบเทียบเหตุการณ์ครั้งนี้กับช่วงปลายปีที่แล้วที่ DELTA เคยถูก Trading Alert ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงก่อนจะแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideway) ประมาณ 10 วันทำการ แล้วตลาดจึงค่อยๆ ฟื้นตัวและหันไปสนใจประเด็นอื่นแทน
“เราคิดว่าคงจะคล้ายๆ กันในรอบนี้ คือ DELTA กระแทกดัชนีลงมาก่อน แล้วตัวของ SET ก็น่าจะแกว่งออกด้านข้าง”
โดยหยวนต้าประเมินว่า Downside ของ SET Index ในรอบนี้มีจำกัด และคาดว่าแนวรับสำคัญบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ระดับ 1,270 จุด จะสามารถรองรับได้ หากไม่มีปัจจัยลบจากต่างประเทศเข้ามากดดันเพิ่มเติม เช่น ปัญหา Government Shutdown ของสหรัฐฯ หรือตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาน่าผิดหวัง
กลยุทธ์ลงทุน: ชี้เป้าเงินหมุนจาก DELTA เข้า “หุ้นใหญ่-ปันผลดี”
ข้อดีของการที่เม็ดเงินไหลออกจาก DELTA คือ โอกาสที่เงินเหล่านั้นจะหมุนเวียน (Rotate) เข้าไปลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่นๆ ที่ราคายังไม่สูงและมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ซึ่งหยวนต้าได้ชี้เป้ากลุ่มหุ้นที่น่าจะได้รับอานิสงส์ ดังนี้
- หุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ที่แนวโน้มกำไร Q3 ดี:
CRC, ADVANC, TRUE, RATCH, AOT, PTT, GULF, CPALL, BDMS
- หุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่กำไรสวย:
FSMART
- กลุ่ม REITs ที่มีปันผลสม่ำเสมอ:
3BBIF (3BBF), CPNREIT
จับตา “มาตรการรัฐ-ดอกเบี้ยขาลง” ปัจจัยหนุนโค้งสุดท้ายปลายปี
คุณณัฐพลมองว่าปัจจัยที่จะเข้ามาช่วยหนุนตลาดในช่วงที่เหลือของปีคือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง
- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ: สัปดาห์หน้าจะมีการประชุม ครม. เศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะออกมาตรการดูแลค่าเงินบาท (บวกต่อกลุ่มส่งออก), มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง (บวกต่อ CENTEL, ERW) และมาตรการดึงดูดการลงทุน (บวกต่อกลุ่มนิคมฯ AMATA, WHA)
- มาตรการ “NISA ประเทศไทย”: มีข่าวว่ากระทรวงการคลังกำลังสนใจมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อหุ้นโดยตรง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นมาตรการใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจมีผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- แนวโน้มดอกเบี้ย: คาดว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธันวาคม และเฟดจะลดอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มหุ้น “Yield Play” เช่น ไฟแนนซ์, สื่อสาร, โรงไฟฟ้า และ REITs
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
