"ไบเดน" จะไม่ใช้รัฐธรรมนูญ ผ่าทางตันเพดานหนี้
คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันอังคาร (23 พฤษภาคม) ว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ไม่มีแผนจะนำรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับแก้ไขครั้งที่ 14 มาใช้เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ที่ใกล้เข้ามา
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดนเคยเปรย ๆ กำลังดูว่าจะนำรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขที่ 14 มาใช้แก้ปัญหาเพดานหนี้ได้หรือไม่ แต่เขายังเกรงว่าจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ
การแถลงของทำเนียบขาวล่าสุดนี้ สะท้อนว่า ประธานาธิบดีไบเดนเลิกคิดจะผ่าทางตันปัญหาวิกฤตเพดานหนี้ด้วยการใช้กลไกรัฐธรรมนูญแล้ว ในขณะที่เหลืออีก 1 สัปดาห์ สหรัฐฯ อาจต้องผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ฌอง-ปิแอร์ กล่าวต่อไปว่า รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขฉบับที่ 14 อนุญาตให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ อาจจะสามารถเพิกเฉยต่อการจำกัดเพดานหนี้สาธารณะได้ แต่จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาในปัจจุบันที่เรากำลังประสบอยู่ในขณะนี้ได้
ส่วนผลการเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่ระหว่าง 2 พรรคในการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะที่ชนเพดานล่าสุดเมื่อวานนี้ (23 พฤษภาคม) ฌอง-ปิแอร์ระบุว่า ทั้ง 2 พรรคเห็นพ้องกัน การปล่อยให้สหรัฐฯ ต้องผิดนัดชำระหนี้นั้น ไม่อยู่บนโต๊ะเจรจา และการจะใช้วิธีเพิ่มเพดานหนี้ระยะสั้น เพื่อต่อเวลาเจรจาระหว่างไบเดนกับแมคคาร์ธีให้มากขึ้นนั้น ก็ไม่ได้อยู่บนโต๊ะเจรจาเช่นกัน
การเจรจาผ่าทางตันเพดานหนี้ล่าสุดในระดับเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้ ใช้เวลานาน 2 ชั่วโมง แต่กลับไม่มีผลคืบหน้าแต่อย่างใด และยังไม่ได้นัดวันหารือครั้งต่อไปด้วย โดยตัวแทนเจรจาฝ่ายรัฐบาล คือ ชาลันดา ยัง ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และสตีฟ ริคเชตติ ที่ปรึกษาทำเนียบขาว
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดน ผู้นำพรรคเดโมแครต กับ เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พรรครีพับลิกัน ได้เจรจาด้วยตัวเองกันมาแล้ว 3 รอบตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วถึงต้นสัปดาห์นี้ โดยปราศจากผลในการบรรลุความตกลงเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ เพื่อไม่ให้ต้องผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นอย่างเร็ว
ประเด็นที่ยังแตกต่างแตกแยกกันอย่างมาก คือ จะใช้วิธีใดลดการขาดดุลงบประมาณรัฐบาลกลาง เดโมแครตของไบเดนต้องการขึ้นภาษีคนร่ำรวยและธุรกิจ แต่รีพับลิกันต้องการให้รัฐบาลใช้วิธีตัดลดรายจ่าย
ทั้งนี้ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้เตือนแล้วว่า รัฐบาลกลางจะหมดเงินชำระหนี้สาธารณะตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นอย่างเร็ว และเตือนหากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ จะส่งผลกระทบทุบเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ส่วนนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอย และทำให้ดอกเบี้ยทุกอย่างพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ดอกเบี้ยไฟแนนซ์รถ ไปจนถึงหนี้บัตรเครดิต
ภาพ: Reuters
————
📲 อัปเดตข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt
ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok