ชาวออสเตรเลียเกือบครึ่งมองโควิด-19 ฉุด 'ชีวิตแย่ลง'

ซิดนีย์, 5 ธ.ค. (ซินหัว) -- วันจันทร์ (5 ธ.ค.) สถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์และสังคมแห่งเมลเบิร์น สังกัดมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นของออสเตรเลีย เผยแพร่รายงานการสำรวจครัวเรือน รายได้ และพลวัตแรงงานในออสเตรเลีย (HILDA) ซึ่งพบชาวออสเตรเลียร้อยละ 45 รู้สึกว่าชีวิตย่ำแย่ลงเพราะการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยเฉพาะผู้ว่างงาน ผู้ทุพพลภาพ และผู้มีปัญหาสุขภาพจิ

ตรายงานฉบับใหม่ใช้ข้อมูลจนถึงปี 2020 และศึกษาครัวเรือนออสเตรเลียระยะยาวระดับชาติ พบการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ทำให้ความไม่มั่นคงในหน้าที่การงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบสองทศวรรษ โดยคนงานทั่วประเทศเกือบ 1 ใน 20 (ร้อยละ 4.5) ตกงาน และพนักงานเกือบ 1 ใน 10 คน (ร้อยละ 9.6) ถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างอัตราการจ้างงานทั้งชายและหญิงลดลงอย่างรวดเร็วเหลือร้อยละ 78.3 และร้อยละ 71.6 ตามลำดับ ขณะสัดส่วนของผู้ว่างงานเพศชายเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.0 เป็นร้อยละ 6.3 และเพศหญิงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.9 เป็นร้อยละ 4.0 โดยอัตราการจ้างงานผู้ชายในปี 2022 แตะระดับต่ำสุดและสัดส่วนผู้ว่างงานพุ่งสูงสุดในรอบศตวรรษนี้ขณะเดียวกันสุขภาพจิตของชาวออสเตรเลียย่ำแย่ลงด้วย โดยเฉพาะกลุ่มคนอายุ 15-24 ปี และ 25-34 ปี ซึ่งพบว่ามีสุขภาพจิตแย่ลงอย่างมากระหว่างปี 2019-2020รายงานระบุว่าร้อยละ 30 ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาต้องหยุดเรียนเพราะโรคระบาดใหญ่ ด้านพ่อแม่ผู้ปกครองมากกว่าครึ่งหนึ่งต้องช่วยสอนหนังสือลูกหลานวัยประถมที่บ้าน และแสดงความเห็นว่าการเรียนรู้ช่วงเกิดโรคระบาดใหญ่เป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับเด็กอนึ่ง สถาบันฯ เผยแพร่ผลการศึกษาใหม่จากการสำรวจประจำปี เพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของชีวิตชาวออสเตรเลียที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา