ภรรยา เข็นซาเล้งพาสามีตาบอด จากสระแก้ว ไปกทม. ขอไปตายดาบหน้า
ภรรยา เข็นซาเล้งพาสามีตาบอด จากสระแก้ว ไปกทม. ขอไปตายดาบหน้า
วันนี้ 30 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดี พบ 2 สามี-ภรรยา ปั่นรถซาเล้งจาก จ.สระแก้ว เพื่อที่จะไป กทม. โดยภรรยากำลังจูงซาเล้งให้ผู้เป็นสามีนั่ง
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังศาลาที่พักริมทางริมทางถนน 304 (กบินทร์บุรี –ศรีมหาโพธิ ) ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบชายหนุ่ม-หญิงสาววัยกลางคน กำลังพักอยู่ในศาลาริมทาง มีรถซาเล้งสภาพเก่า 1 คัน ในรถมีของเก่าเต็มคันรถ กำลังนั่งกินข้าว ส่วนฝ่ายหญิงนั่งข้างทางจึงสอบถาม
จากการสอบถามทราบชื่อ นางพยอม ภูกาบทอง อายุ 56 ปี กล่าวว่า ตนเดินทางกับสามี นายชาย จอมหงษ์ อายุ 48 ปี มาจากสระแก้ว สามีตาบอดเมื่อปี 2562 ป่วยเป็นต้อ จนตาทั้งสองข้างมองไม่เห็น
สามีกับตนอาศัยอยู่บ้านพี่สาวคนละพ่อ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ต่อมาสามีบอกว่าอาศัยเขาอยู่เกรงใจเขา อยากไปหาอยู่ที่อื่นตามลำพัง ตนเป็นชาวอีสานเคยไปทำงานอยู่ จ.นนทบุรี เช่าบ้านอยู่ เก็บของเก่าขาย เมื่อสามีไม่อยากอยู่ จึงพาสามีไป กทม.
นางพยอม กล่าวต่อว่า ตนขอใช้ชีวิตอยู่แบบคนเร่ร่อนทั่วไป ที่ผ่านมาสามีน้อยใจที่ไม่มีบัตรประชาชน เคยติดต่อขอทำบัตรคนพิการก็ทำไม่ได้ อยากไปตายเอาดาบหน้า ตนพร้อมสามีได้ปั่นซาเล้งออกมาตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ค่ำไหนนอนนั่น
แต่ล่าสุดซาเล้งปั่นไม่ได้แล้ว ลูกปืนแตก ตนจึงใช้วิธีเข็นให้สามีนั่ง เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ก็ทนเพราะไม่มีอะไรดีกว่านี้ อยากพาสามีไปกทม.ตามเส้นทาง เผื่อว่ามีคนใจบุญ หรือมีใครพอที่จะช่วยรักษาตาของสามีให้มองเห็น ถ้าไม่มีก็จะพากันอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไป ใครให้เงินร้อยครึ่งร้อยก็เอาพอได้ซื้อข้าวกิน ระหว่างจูงซาเล้งเก่ามาตามทาง เห็นขวดเห็นอะไรที่พอเก็บขายได้ ก็เก็บใส่ถุงแวะขายตามร้านรับซื้อของเก่าตามทางทั่วไป