สะท้อน"เศรษฐกิจย่ำแย่" คนแห่ทิ้งสัตว์เลี้ยง ภาษีทรัมป์ตัวกระตุ้น

เศรษฐกิจย่ำแย่ "หมา-แมว รับกรรม" คนอังกฤษทิ้งสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
จับตาปัญหาปากท้องในอังกฤษหนักขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดมีรายงานบอกว่า คนเริ่มมีปัญหาทางการเงินเข้าขั้นวิกฤต
ถึงขนาดเอาสัตว์เลี้ยงมาปล่อยทิ้งมากขึ้น เพราะไม่มีปัญญาเลี้ยงดูไหวแล้ว
และคาดว่าจะมีสัตว์เลี้ยงโดนทิ้งนับหมื่นตัว
ปัญหาเศรษฐกิจเกิดขึ้นทั่วโลก และไม่ได้กระทบแค่ผู้คน
แต่ยังลุกลามไปสวัสดิภาพความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยง
และข่าวนี้อาจจะทำให้คนที่รักสัตว์ต้องใจสลาย
เพราะคนรักสัตว์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะทาสหมา ทาสแมว มักจะบอกว่าเพื่อทาสแล้วเรายอมอด
แต่ก็ไม่ใช่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนบนโลกที่คิดเช่นกันนั้น
หลายคนขอเลือกปากท้องตัวเองไว้ก่อน สัตว์เลี้ยงปล่อยตามยถากรรม
ข้อมูลจากรายงานของเอเอฟพี ระบุว่าตอนนี้ผู้คนในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในลอนดอน
พากันเอาสัตว์เลี้ยงที่เคยมีอยู่ เอามาปล่อยทิ้งกันมากขึ้น
เพราะเลี้ยงดูไม่ไหว จากปัญหาการเงิน จากสภาพเศรษฐกิจ
พนักงานของสถานสงเคราะห์สัตว์ในลอนดอน เปิดเผยว่า
พวกเค้าเริ่มพบเห็นการ ทิ้งสัตว์เลี้ยง ในรูปแบบที่น่าเป็นห่วงมากขึ้น
เช่น ไปเจอลูกแมวถูกทิ้งในกล่อง หรือ นกแก้วที่ถูกทิ้งนอกบ้าน
ซึ่งการทิ้งสัตว์เลี้ยงเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เนื่องจาก ค่าครองชีพที่สูง ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนมากต้องยอมตัดใจ
ทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเอง เพราะไม่สามารถดูแลได้อีกต่อไปแล้ว
ศูนย์พักพิงสัตว์ เมย์ฮิว ที่ตั้งอยู่ในเคนซัลกรีน ทางตะวันตกของลอนดอน เปิดเผยว่า
ในปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียว ทางศูนย์ต้องรับสัตว์เข้ามาดูแลมากกว่า 130 ตัวแล้ว
แถมสัตว์เลี้ยงจำนวนมากที่เจอสภาพไม่ค่อยสู้ดี ต่างมีสุขภาพไม่ดีนัก
และหลายกรณีก็เกิดจากการที่เจ้าของอาจจะเอาไปรักษาไม่ไหว เพราะสู้เงินค่ารักษาพยาบาล
ไม่มีเงินพอ
แนวโน้มการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงในสหราชอาณาจักร เริ่มเห็นชัดมากขึ้น
ในช่วงหลัง COVID-19 ที่วิกฤตค่าครองชีพที่เริ่มต้นขึ้น
ทำให้เจ้าของสัตว์บางคนต้องเลือกระหว่าง เลี้ยงตัวเอง หรือ เลี้ยงสัตว์เลี้ยง
จึงส่งผลให้ประเทศมี สัตว์เลี้ยง หลายหมื่นตัวถูกทอดทิ้ง
รายงานของ RSPCA ซึ่งเป็นองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า
ในช่วงไม่กี่เดือนในปีนี้ พบรายงานการ ละทิ้งสัตว์มากกว่า 5,700 กรณี
เพิ่มขึ้น +32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในของปีที่แล้ว (2024 )
ขณะที่ตัวเลขจากปี 2024 มีรายงานกรณีสัตว์ถูกละทิ้งทั้งหมดประมาณ 22,500 กรณี
เพิ่มขึ้น +7% เมื่อเทียบกับปี 2023
แต่เมื่อกลับไปในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 ในสหราชอาณาจักร
มีข้อมูลว่าคนหันไปเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องติดอยู่แต่ในบ้าน
แต่พอสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ หลายคนเริ่มที่จะเลิกเลี้ยงสัตว์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น
แต่ที่น่าห่วงยิ่งกว่านี้ คือ หลังจากวันนี้เป็นต้นไป
คาดการณ์ว่า จะยังคงมีสัตว์เลี้ยงในอังกฤษจะถูกทิ้งมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก
จากผลกระทบของภาษีทรัมป์
สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยงในอังกฤษออกมาเตือนและเป็นห่วงว่า
จะมีหมาแมวถูกทิ้งครั้งใหญ่จากแรงกดดันทางการเงิน
ที่รับผลกระทบมาจากภาษีการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ
ข้อมูลจาก Woodlands Animal Sanctuary ในโฮล์มส์วูด แลงคาเชียร์ เปิดเผยว่า
ปัญหาค่าครองชีพทำให้คนทิ้งสัตว์เลี้ยงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา จนทำให้ที่พักพิงในศูนย์เต็มหมดแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม
ทางศูนย์ดูแลสัตว์ระบุว่า 90% ของสัตว์ที่ช่วยเหลือมาต่างก็โดนทิ้งขว้าง
โดยเจ้าของที่ไม่สามารถจ่ายค่าเลี้ยงดูพวกมันได้อีกต่อไป
หรือเจ้าของเองก็กำลังเผชิญกับการถูกไล่ออกมาจากบ้าน
แต่ปัญหาสำคัญ คือ หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก เพราะสถานการณ์ไม่ดีขึ้นเลย
โดยเฉพาะสงครามการค้า การเดินหน้าใช้ภาษีศุลกากรของทรัมป์
ที่จะผลกระทบในวงกว้างมากขึ้นต่อสหราชอาณาจักร ทั้ง อัตราดอกเบี้ย และราคาขายปลีกสินค้าต่างๆ
วิกกี้ แบล็กเบิร์น ผู้ดูแลและอาสาสมัครของมูลนิธิ Woodlands กล่าวว่า
นี่เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกในรอบ 20 ปี ทางศูนย์ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน
สมัยก่อน ปกติแล้วจะเจอแมวที่ถูกทิ้งเพราะเรื่องการเงินแค่ 1 หรือ 2 ตัวจากทั้งหมด 10 ตัว
แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ กลายเป็นว่า แมวทุกตัวที่ถูกทิ้งมาจากปัญหาการเงินของเจ้าของทั้งนั้น
ทำให้ศูนย์พักพิงไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์ได้ทุกตัวที่มีปัญหาได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามขณะนี้ในอังกฤษมีองค์กรการกุศลที่เปิดตัวธนาคารอาหารสัตว์เลี้ยง
เพื่อช่วยเหลือเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ประสบปัญหาทางการเงิน
และยังทำงานเพื่อรณรงค์และสร้างการตระหนักถึงความสำคัญของการทำหมันแมวอีกด้วย
ปากท้องหมาแมวสำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน
ถ้าหากเศรษฐกิจยังย่ำแย่อยู่ ล่าสุดนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ
ก็ยังยอมรับว่าตอนนี้อยู่ท่ามยุคแห่งความไม่มั่นคง
และเศรษฐกิจอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาได้ จากนโยบายของทรัมป์
สำนักข่าวบลูกเบิร์ก รายงานว่า
เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกฯ อังกฤษ ออกแสดงความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจจะไม่ฟื้นตัว
เพราะนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ
ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดโลกและสหราชอาณาจักรอย่างมีนัยสำคัญ
ความผันผวนของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
ส่งผลกระทบต่อสหราชอาณาจักรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแผนการใช้จ่ายของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวสุนทรพจน์ เตือนถึง “ยุคแห่งความไม่มั่นคง”
ที่สหราชอาณาจักรและโลกกำลังเผชิญอยู่
โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
รัฐบาลกำลังพิจารณามาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ
ในขณะเดียวกันก็พยายามรักษาข้อตกลงทางการค้ากับพันธมิตร
พร้อมให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการเชิงรุก
เพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ
ยุคแห่งทรัมป์ ยุคแห่งความไม่มั่นคง
ชัดเจนแล้วว่าภาษีทรัมป์ไม่ได้กระทบแค่คน และลุกลามไปถึงชีวิตของหมาแมวด้วยซ้ำ
และไม่ใช่แค่ในอังกฤษ แต่เช่นเดียวกับทั่วโลกและไทยเราเองที่แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการเจรจา
แต่ก็ต้องเตรียมใจ ตั้งรับให้ดี โดยเฉพาะเรื่องการเงิน