ครึ่งปีแรก โลกใช้ 'ลม-แสงอาทิตย์' ผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ถ่านหินลดลง

สำนักข่าวเอเอฟพีเปิดเผยรายงานของคณะทำงานด้านพลังงาน “เอ็มเบอร์” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ระบุว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 โลกมีการใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของไฟฟ้าทั้งหมดบนโลก ในขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินมีการผลิตไฟฟ้าออกมาไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความสามารถที่มี
แม้ว่าความต้องการในการใช้ไฟฟ้าจะลดลงจนเกือบจะทำสถิติต่ำสุด เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แต่พลังงานหมุนเวียนมีการใช้งานถึง 1,129 เทราวัตต์ชั่วโมง ในเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 ซึ่งอยู่ที่ 992 เทราวัตต์ชั่วโมง
โดยอัตราส่วนร้อยละของการใช้พลังงานที่ได้จากลมและแสงอาทิตย์ เพิ่มมากขึ้นกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2015 ซึ่งอยู่ที่ 4.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พลังงานที่ได้จากถ่านหิน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอลซิลที่สร้างมลพิษมากที่สุด ลดลงไป 8.3 เปอร์เซ็นต์ในช่วงครึ่งปีแรก
โดยในการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า ประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งรวมทั้งจีน สหรัฐอเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น บราซิล และตุรกี ตอนนี้ ผลิตไฟฟ้าจากลมและแสงอาทิตย์ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด มีเพียงอังกฤษ กับสหภาพยุโรปที่ผลิตได้ 21 และ 33 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ