นายกฯนำถกพลังงาน วอนประหยัดเป็นแบบอย่างปชช. เตือนทำอะไรต้องโปร่งใส ปกป้องนายกฯด้วย
ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 6 พ.ค.ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติครั้งที่ 3/2565
นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุม ว่า สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ โดยการจัดหาพลังงานสะอาด ตามแผนเศรษฐกิจชีวภาพหมุนเวียน หรือ BCG ที่จะครอบคลุมการผลิตไฟฟ้าจากขยะเพื่อเพิ่มมูลค่า ทั้งพลังงานลมพลังงานแสงอาทิตย์ ก๊าซชีวภาพและพลังน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน ให้ครอบคลุมไปทั้งหมดให้ครบทุกมิติ โดยขอให้ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันขับเคลื่อน การดำเนินการดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อจะเร่งเดินหน้าสู่เป้าหมาย Zero Edition ของประเทศไทยให้ได้ร้อยละ 40 ภายในปี 2573 ตามที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้แล้ว ในการประชุม Cop 26
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญอีกประการ คือทุกคนต้องร่วมมือกันในการประหยัดพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานให้มากขึ้น ซึ่งมีหลายแผนงานที่เราต้องดำเนินการกันต่อไป โดยหน่วยงานของรัฐจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ในการประหยัดพลังงาน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้เสนอมาตรการ การลดใช้พลังงานภาครัฐเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และมีการรายงานประเมินผลด้วย โดยตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 20 ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน เชื้อเพลิง ซึ่งครม. มีมติเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้เร่งการดำเนินการดังกล่าวและรายงานผลตามที่ครมกำหนดไว้ โดยขอให้ครมร่วมกับโฆษกรัฐบาล ในการประชาสัมพันธ์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ให้ประชาชนรับทราบเพื่อเป็นตัวอย่างให้ประชาชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ทุกอย่างที่รัฐบาลทำนั้น ทำด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นและเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ โดยขอย้ำที่ประชุมว่า ขอให้ทำหน้าที่ด้วยความสุจริตโปร่งใส มีประสิทธิภาพตรวจสอบได้และคุ้มค่า อย่าให้ถูกนำไปบิดเบือนโดยเด็ดขาด นายกรัฐมนตรีก็ช่วยกันป้องกันพวกเรา พวกเราก็ต้องช่วยกันป้องกันนายกรัฐมนตรีด้วย,, หากทำอะไรที่ไม่ถูกต้องมาก็มีปัญหาไปทั้งหมด เพราะมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วก่อนหน้ารัฐบาลที่เราเข้ามา อะไรที่ถูกเตือนมามีปัญหามา ก็ต้องตรวจสอบทุกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้นให้ได้