รีเซต

อีอีซี-สภาพัฒน์ ชูผลสำเร็จแผนบูรณาการ ต้นแบบยกระดับการทำงานร่วมทุกภาคส่วน

อีอีซี-สภาพัฒน์ ชูผลสำเร็จแผนบูรณาการ ต้นแบบยกระดับการทำงานร่วมทุกภาคส่วน
มติชน
2 ธันวาคม 2564 ( 18:52 )
49
อีอีซี-สภาพัฒน์ ชูผลสำเร็จแผนบูรณาการ ต้นแบบยกระดับการทำงานร่วมทุกภาคส่วน

ายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวัน (สกพอ.) หรือ อีอีซี ร่วมกับ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดแผนบูรณาการ อีอีซี เพื่อบูรณาการการพัฒนาเชิงพื้นที่อีอีซีอย่างเป็นระบบ โดยโครงการในงานแผนบูรณาการเป็นแผนภาพรวมเพื่อพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ในกรอบระยะ 5 ปี ตามเป้าหมายแผนแม่บทภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ และ แผนปฏิรูปประเทศ ที่เป็นต้นแบบการสร้างการมีส่วนร่วม รัฐ เอกชน ท้องถิ่น ประชาชน อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวคิด “ร่วมคิด ร่วมลงทุน ร่วมพัฒนา”

 

โดยที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปี 2561-2565 ได้มีการขับเคลื่อนงานร่วมกันกว่า 14 กระทรวง 43 หน่วยงาน ได้รับอนุมัติงบประมาณ ถึง พ.ศ. 2567 แล้ว 82,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 5 ของงบลงทุนที่ได้อนุมัติ ซึ่งปัจจุบันได้รับจัดสรรไปแล้วกว่า 70,000 ล้านบาท สามารถดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และเกิดมูลค่าการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายจำนวน 924,734 ล้านบาท เกิดมูลค่าลงทุนจริงในพื้นที่อุตสาหกรรม รวมทั้งสิ้น 728,838 ล้านบาท นอกจากนี้ ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม คมนาคม ขนส่ง และการท่องเที่ยว นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนคนในพื้นที่อีอีซี อาทิ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน ปรับปรุงทางหลวงและทางหลวงชนบท 40 เส้นทางการก่อสร้างสะพานชลมารควิถี 84 พรรษา การพัฒนาท่าเรือจุกเสม็ด ต้นแบบ 5G ในพื้นที่บ้านฉาง การพัฒนาทักษะบุคลากร “อีอีซีโมเดล” สร้างคนตรงความต้องการ การเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งคาดว่าจะสามารถดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่พื้นที่อีอีซีกว่า 12,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม คิดเป็นมูลค่า 37,000 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ แผนงานบูรณาในปี 2566 เน้น “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างบูรณาการและยั่งยืน” โดยกำหนดเป้าหมายการลงทุน 500,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนอีอีซีในระยะ 5 ปีข้างหน้า (ปี 2565-2569) ของ สกพอ. ที่ปรับเป้าหมายการลงทุน เป็น 2.2 ล้านล้านบาท โดยในปี 2566 ได้กำหนดแนวทางสำคัญภายใต้แผนงานบูรณาการ 4 แนวทางตามภารกิจที่สำคัญที่เชื่อมโยงส่งต่อการดำเนินงานร่วมกันในลักษณะต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้แก่

 

1) ต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค และระบบดิจิทัล เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานกับพื้นที่เศรษฐกิจอย่างไร้รอยต่อ ควบคู่การวางโครงข่ายดิจิทัลเพื่อดึงทุนเอกชนรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

2) พัฒนาและยกระดับบุคลากร การศึกษา วิจัย และนวัตกรรม หลอมรวมการศึกษา พัฒนาทักษะบุคลากร สู่การปฏิบัติงานจริงในภาคอุตสาหกรรม และพัฒนาพื้นที่นวัตกรรม รองรับการวิจัยชั้นนำ พร้อมขยายผลเชิงพาณิชย์

3) พัฒนาเมืองเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน พลิกฟื้นเศรษฐกิจ สร้างระบบนิเวศเมืองด้วยการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เกษตรอัจฉริยะ สาธารณสุข เมืองน่าอยู่ และสิ่งแวดล้อม

4) ดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนการลงทุนเศรษฐกิจหมุนเวียนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เศรษฐกิจเติบโตได้ในระยะยาว

 

การขับเคลื่อนแผนงานบูรณาการ อีอีซี ถือเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาพื้นที่อีอีซี ให้เป็นทิศทางและเป้าหมายเดียวกัน เพื่อให้เกิดการลงทุนจากภาครัฐและภาคเอกชน ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง) และพื้นที่ที่เกี่ยวข้องก่อให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของ GDP ทั้งในระดับพื้นที่และในภาพรวมของประเทศ เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม เกิดการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งด้านอุตสาหกรรมเป้าหมาย 12 อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

การพัฒนาภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ตามแนวคิด “การตลาดนำการผลิต”การท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่มีการกระจายรายได้ไปยังชุมชนต่าง ๆ ทั่วถึง การพัฒนาการศึกษาด้วยแนวคิด Demand Driven ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมทั้งการพัฒนาเมืองน่าอยู่อัจฉริยะที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีและระบบสาธารณสุขที่พร้อมให้บริการอย่างเต็มศักยภาพ ช่วยให้ประเทศไทยสามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแท้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง