รีเซต

"สศช."ห่วงคนไทยติดใช้"สินค้าหรู"ก่อหนี้เกินตัว

"สศช."ห่วงคนไทยติดใช้"สินค้าหรู"ก่อหนี้เกินตัว
TNN ช่อง16
10 มิถุนายน 2568 ( 11:15 )
9

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดสถานการณ์หนี้สินครัวเรือน ในไตรมาสสี่ ปี 2567 หนี้สินครัวเรือนมีมูลค่ารวม 16.42 ล้านล้านบาทขยายตัวร้อยละ 0.2 ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน จากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่ให้สินเชื่อลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ปรับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ88.4 จากร้อยละ 88.9 ในไตรมาสก่อนหน้า 

อย่างไรก็ดี สภาพัฒน์มองว่าประเด็นหนี้สินครัวเรือนที่ควรให้ความสำคัญคือ พบว่าคนไทยมีพฤติกรรรมการบริโภคแบบติดหรู ซึ่งอาจนำไปสู่การก่อหนี้เกินตัวได้ง่าย

จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล ในปี 2567 พบว่า คนไทย 1 ใน 3 นิยมใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรู (Luxury และบริการระดับพรีเมียม อาทิ อาหารเครื่องดื่ม บัตรคอนเสิร์ต บริการเสริมความงาม ของสะสม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและการยอมรับจากสังคม ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการก่อหนี้เกินตัว 

เนื่องจากกว่าร้อยละ 50 มีเงินออมสำหรับยามฉุกเฉินน้อยกว่า 6 เดือน ทำให้มีแนวโน้มเข้าสู่วงจรหนี้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สะท้อนปัญหาการขาดความรู้ และการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสม 



ทั้งนี้ เพศชายมีความต้องการโดดเด่นที่มากกว่าเพศหญิง ซึ่งสินค้าที่นิยมซื้อแบบติดหรูได้แก่ อุปกรณ์เทคโนโลยี ขณะที่เพศหญิงนิยมซื้อสินค้ากลุ่อาหารและเครื่องดื่ม 

นอกจากนี้ สภาพัฒน์ยังให้ความสำคัญในการผลักดันให้สหกรณ์เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครดิตบูโร  เนื่องจากข้อมูลของกรมส่งเสริมสหกรณ์ในปี 2567 พบว่า สหกรณ์ทุกประเภทมีการปล่อยกู้ให้กับสมาชิกมูลค่า 1.3 ล้านล้านบาท แต่สหกรณ์ที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรยังมีจำนวนน้อย ทำให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนทำได้ยาก และจากข้อมูลของเครดิตบูโรในไตรมาสสาม ปี 2567 พบว่า หนี้เสียของลูกหนี้สหกรณ์มีการขยายตัวสูงที่สุดเมื่อเทียบกับลูกหนี้ประเภทอื่น


นอกจากนี้ สมาชิกส่วนใหญ่ของสหกรณ์ประกอบอาชีพข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือกลุ่มเกษตรกร ที่มีความเสี่ยงก่อหนี้ซ้ำซ้อนหากไม่มีวินัยทางการเงินที่ดี โดยกรณีการเข้าร่วมเครดิตบูโรของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์

พบว่า สามารถปรับพฤติกรรมทางการเงิน ผ่านการให้ค าปรึกษา การประเมินข้อมูลเครดิต และประสานข้อมูลกับสถาบันทางการเงินอื่น รวมถึงเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อที่เป็นธรรม 

ดังนั้น ภาครัฐควรผลักดันเชิงนโยบายให้สหกรณ์เข้าร่วมเป็นสมาชิกกับเครดิตบูโร เพื่อให้สามารถบริหารจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมความมั่นคงทางการเงินของประชาชนในระยะยาว 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง