"พิชัย" เดินหน้าเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ หลังไทย-กัมพูชาหยุดยิง มั่นใจดีลสำเร็จต่ำกว่า 36% ทันเส้นตาย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐฯ ทันทีที่กลับมาเปิดโต๊ะเจรจา หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำแห่งสหรัฐฯ ระบุว่าจะเดินหน้าเจรจาเมื่อทั้ง 2 ฝ่าย คือไทยและกัมพูชามีข้อตกลงหยุดยิง โดยฝ่ายไทยยังเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯจะกำหนดอัตราภาษีแก่ไทยต่ำกว่า 36%
นายพิชัย กล่าวว่า เป็นที่ทราบว่าสหรัฐฯ เปิดทางให้เจรจาต่อแล้ว ซึ่งทันทีที่สหรัฐฯ เปิด ทางการไทยก็ติดต่อไปในวันนี้เพื่อคุยต่อเนื่อง เชื่อว่ายังคงทันตามข้อกำหนดของสหรัฐฯอย่างแน่นอน และจะต้องรอดูว่าสหรัฐจะตัดสินใจอย่างไร ทั้งนี้หากจะมีการเจรจาร่วมกันก็คงเป็นการพูดคุยกันในระดับของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ทั้งนี้ย้ำว่าที่ผ่านมานั้นประเทศไทยยังคงมีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง โดยมีหลักการที่เราการรับได้ที่ยังคงเหมือนเดิมซึ่งสหรัฐฯ ได้เห็นข้อเสนอและหลักการของฝ่ายไทยครบหมดแล้ว มีการหารือกันไปในแต่ละข้อ และหลายข้อก็ได้ปิดจบไปแล้ว โดยยังเหลืออีกเพียงแค่บางข้อเท่านั้นที่ต้องมีการตกลงกัน ดังนั้นการประกาศผลออกมาอย่างไร เป็นหน้าที่ของสหรัฐฯ
ส่วนความหนักใจที่มีประเด็นชายแดนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐด้วยนั้น นายพิชัย ยอมรับว่า เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากในเรื่องความมั่นคงของประเทศ ซึ่งความมั่นคงของประเทศก็ต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยเน้นย้ำว่าวันนี้ เราต้องดูเรื่องประเทศชาติก่อน ตกลงได้ในสิ่งที่ควรจะเป็น มาตรการด้านเศรษฐกิจของเราก็เดินไปในสิ่งที่ควรจะเป็น
ขณะเดียวกันกรณีที่ในช่วงเช้านี้ ยังคงมีการปะทะกันอยู่ที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ หรือไม่นั้น นายพิชัย เชื่อว่า ผู้ประเมินคงเข้าใจสถานการณ์ว่าการปะทะกันคงจะไม่ได้หยุดสนิททีเดียว ต้องดูสถานการณ์ต่อไป
และถ้าหากสถานการณ์ไม่คลี่คลายตามที่ตกลงกันไว้ จะมีการขยายเวลาการผ่อนผันออกไปหรือไม่นั้น นายพิชัย กล่าวว่า ไทยพร้อมเจรจาอยู่ตลอด ส่วนเงื่อนไขจะได้เจรจาต่อหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทางสหรัฐฯ มากกว่า
นายพิชัย ระบุว่า "เรื่อง 36% เราไม่ควรจะโดนแน่นอน เพียงแต่ว่าจะตกลงและประกาศเมื่อไรนั้น เป็นอีกจังหวะหนึ่ง อาจจะประกาศผลก่อน 1 สิงหาคม 2568 ก็ได้ หรือประกาศวันที่ 2 สิงหาคม 2568 ก็ได้ ไม่เป็นไร ต่างกันวันเดียว"
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
