ผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT เพิ่ม บล.กสิกรฯแนะ BEM เป้า 11.17 บ.
#BEM #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
เดือนพ.ย.เติบโต MoM แต่ธ.ค.ลดลง MoM
อัปเดตล่าสุด 1) รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินทำสถิติผู้โดยสารต่อวันสูงสุดนับตั้งแต่หลังโควิด-19 2) SET ปรับเพิ่มอันดับ ESG ของ BEM จาก AA เป็น AAA ปริมาณผู้โดยสารของรถไฟฟ้า MRT และ BTS ทุกสายเพิ่มขึ้นทั้ง MoM และ YoY หนุนจากนักท่องเที่ยวขาเข้าและการเปิดโครงการ วัน แบงค็อก
มุมมองเชิงบวกจากการเติบโตของผู้โดยสารทุกสายจากการพัฒนาเส้นทางและการเปิดสาย MRT ใหม่ หุ้นเด่นของเราคือ BEM ด้วยราคาเหมาะสมที่ 11.17 บาท
Investment Topics
อัปเดตล่าสุดประการแรก กรมการขนส่งทางราง (DRT) เปิดเผยว่ารถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินทำสถิติผู้โดยสารสูงสดนับตั้งแต่หลังโควิด-19 โดยมีจำนวน 558,000 เที่ยวต่อวันเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเปิดโครงการ วัน แบงค็อก และงานกาชาดที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-22 ธ.ค. ประการที่สอง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศการจัดอันดับ SET ESG ปี 2567 โดยปรับเพิ่มอันดับ ESG ของ BEM จาก AA เป็น AAA ซึ่งเรามองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น เนื่องจากอาจดึงดูดความสนใจจากกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีความยั่งยืน
อัปเดตการจราจรปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าทุกสายของ MRT และ BTS เพิ่มขึ้นทั้ง MoM และ YoY ในเดือนพ.ย. BEM รายงานปริมาณการจราจรบนทางด่วนเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1.14 ล้านเที่ยว (+2.9% MoM, ทรงตัว YoY, คิดเป็น 90% ของเดือนพ.ย. 2562ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของเรา) และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 462,700 เที่ยว (+4.1% MoM, +7.2% YoY, คิดเป็น 112% ของปี 2562 แต่ต่ำกว่าประมาณการของเรา 2.4%) BTSGIF รายงานปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของ BTS สายสีเขียวหลักอยู่ที่ 593,300เที่ยว (+6.3% MoM, +6.6% YoY, คิดเป็น 84% ของปี 2562 และต่ำกว่าประมาณการของเรา 7.8%) ตามรายงานของกระทรวงคมนาคม (MOT) จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของ MRT สายสีเหลืองอยู่ที่ 43,600 เที่ยว (+3.9% MoM, +20.5% YoY) และMRT สายสีชมพูอยู่ที่ 60,000 เที่ยว (+6.8% MoM)
แนวโน้ม เราคาดว่าปริมาณการจราจรจะลดลง MoM ในเดือนธ.ค. เนื่องจากผู้คนมักจะหยุดพักยาวในช่วงเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าปริมาณการจราจรจะยังคงเติบโต YoY โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและกิจกรรมเฉลิมฉลองที่มักจัดขึ้นตามสถานที่สำคัญและห้างสรรพสินค้าตามเส้นทาง MRT และ BTS สำหรับปี 2568 เราคาดว่าจะเห็นการเติบโต YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากการพัฒนาโครงการใหม่ตามแนวเส้นทางการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวขาเข้า (ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าจะเติบโต 5.3% YoY ในปี 2568) และการเปิดส่วนต่อขยายของ MRT สายสีชมพูที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงกลางปี 2568 นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนดำเนินนโยบายค่าโดยสารอัตราเดียว 20 บาทในเดือนก.ย. 2568ซึ่งอาจช่วยเพิ่มปริมาณผู้โดยสารอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม กรอบเวลา และรายละเอียดของนโยบายดังกล่าวยังคงไม่ชัดเจนในขณะนี้
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ในเชิง YTD ราคาหุ้น BEM ลดลง 4.4% ราคาห์น TFFIF ลดลง 3.1% BTS ลดลง 16% และ BTSGIF ลดลง 9.6% เทียบกับการเพิ่มขึ้นของ SET ที่ 0.3% ในแง่ของมูลค่าองค์กร (EV) ปัจจุบัน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ EV ปี 2562 ของ BEM/BTS/BTSGIF/TFFIF aยู่ที่ 78%/118%/30%/55% ในขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปี 2567 อยู่ที่ 97%/54%/90 %/103%
Valuation and Recommendation
มุมมองเชิงบวกเราคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจย่อยด้านการขนส่งทางบก ปัจจัยที่อาจช่วยกระตุ้นการปรับมูลค่าหุ้นขึ้นได้ ได้แก่ ความคืบหน้าในการดำเนินนโยบายค่าโดยสารอัตราเดียว 20บาท และการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารในกลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเปิดสถานีใหม่และการพัฒนาโครงการตามแนวเส้นทาง
หุ้นเด่น BEM ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราด้วยราคาเป้าหมายปลายปี 2568 ที่ 11.17 บาท ปัจจัยที่อาจช่วยกระตุ้นการปรับมูลค่าหุ้นขึ้น ได้แก่ 1) กำไรที่มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในแต่ละปี 2) การเปิดให้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้และสายสีส้มในช่วงปี 2570-73 และ 3) การเติบโตของปริมาณผู้โดยสารที่ได้รับแรงหนุนจากการเปิดโครงการ วัน แบงค็อก และ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ 1) จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าคาด 2) การแทรกแซงทางการเมืองในด้านอัตราค่าโดยสาร และ 3) ความล่าช้าในการพัฒนาโครงการขนส่งใหม่