ชัดเจนยื่นซองสีส้ม9พ.ย. BEM-BTS งบดีสวนราคา

ทันหุ้น – สู้โควิด – คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ไฟเขียว รฟม. เดินหน้าเปิดรับซองเอกสารประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ตามกำหนด 9 พ.ย.นี้ ควบคู่อุทธรณ์ศาลปกครองกลาง ชี้รับไม่เปิดซองจนกว่าจะได้รับคำตัดสิน เชื่อ ธ.ค.-ม.ค.ได้ผู้ชนะ ด้านนักวิเคราะห์ยังโฟกัสผลการดำเนินงานปัจจุบัน เคาะ “ซื้อ” ทั้ง BTS BEMให้เป้า 11.70 บาท และ 13.50 บาท

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.ระบุ  คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 มีมติให้ รฟม.เปิดรับเอกสารประกวดราคาในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 ตามกรอบเวลาเดิม ควบคู่กับการอุทธรณ์ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ที่คุ้มครองชั่วคราว ให้ รฟม.ทุเลาการบังคับตามหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเป็นแบ่งสัดส่วนคะแนนเป็นคะแนนเทคนิค 30%, และคะแนนราคา 70% กลับไปใช้หลักเกณฑ์การให้คะแนนราคา 100% ตามเดิม ในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)

อย่างไรก็ตาม เมื่อรฟม.รับเอกสารฯ จากภาคเอกชนแล้ว จะเก็บรักษาไว้โดยจะยังไม่ดำเนินการใดใด จนกว่าจะมีคำสั่งจากศาลปกครองสูงสุดในทางใดทางหนึ่ง

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้น รฟม.เตรียมแนวทางการดำเนินการ 2 แนวทาง คือ 1.กรณีศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองกลาง รฟม.โดยคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 จะประชุมเพื่อกำหนดเกณฑ์ และเปิดซองด้านคุณสมบัติ (ซอง 1) วันที่ 23 พฤศจิกายน ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ และเปิดซองด้านเทคนิค (ซอง 2) และซองข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน (ซอง 3) ประเมินข้อเสนอ สรุปประมาณปลายเดือนธันวาคม 2563 เพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อรองผู้ผ่านการประเมินสูงสุด คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นปี 2564 และลงนามสัญญาในเดือนมีนาคม 2564

2. กรณีศาลปกครองสูงสุดยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ซึ่งทางรฟม. น้อมรับคำสั่งศาล และคงเปิดซองเอกสารที่ 1 วันที่ 23 พฤศจิกายน เพื่อประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติตามกำหนดเวลาเดิม ควบคู่ดำเนินการออก RFP Addendum ยกเลิกปรับปรุงเกณฑ์วิธีการประเมินที่ขัดต่อคำสั่งศาล จากนั้นเปิดซองที่ 2 และเปิดซองที่ 3 โดยจะเร่งรัดเพื่อสรุปผลให้ได้ในเดือนมกราคม 2564  เพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อรองผู้ผ่านการประเมินสูงสุด คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นปี 2564 และลงนามสัญญาภายในเดือนมีนาคม 2564

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ ฝ่ายวิเคราะห์ยังไม่ประเมินกรณีการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในการออกบทวิเคราะห์ทั้งบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS  และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM  เนื่องจากเป็นโครงการในอนาคต

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าข่าวการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ จะอยู่ในความสนใจของนักลงทุน ขณะเดียวกันก็จะยังให้ความสำคัญต่อผลการดำเนินงานที่จะทยอยประกาศออกมาด้วย โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าผลการดำเนินงานของทั้ง 2 บริษัทจะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) หนุนจากปริมาณผู้โดยสารที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งเป็นหลัก

@BEM กำไรโดด 443.2%

โดยคาดงวดไตรมาส 3/2563 BEM จะมีกำไรจากธุรกิจหลักที่ 827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 443.2%เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 2/2563 (QoQ), แต่ยังคงลดลง 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) หนุนจากธุรกิจรถไฟฟ้าที่สามารถให้บริการเต็ม capacity ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2563 ขณะที่จำนวนรถใช้ทางด่วนเฉลี่ยวันละ 1.13 ล้านเที่ยวต่อวัน และไม่ว่าบริษัทใดจะเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ  BEM จะได้อานิสงส์จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ เพราะรถไฟฟ้าสายนี้จะมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 11.70 บาท

@BTS แข็งแกร่ง

สำหรับ BTS ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดมาแล้วเมื่องวดไตรมาส 1/2563-2564 (เมษายน-มิถุนายน) โดยมีแนวโน้มจะดีขึ้นต่อเนื่องในงวดไตรมาส 2/2563-2564 (กรกฏาคม-กันยายน) หนุนจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าฟื้นตัวขึ้นตามที่เราคาดไว้ เนื่องจากคนทำงานกลับมาทำงานในออฟฟิศ รวมถึงการเปิดภาคการศึกษาแม้ว่านักท่องเที่ยวจะยังไม่กลับมา ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ฟื้นตัวขึ้นเป็นประมาณ 480,000 เที่ยว/วัน ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดไว้ที่ประมาณ 400,000 เที่ยวต่อวัน ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการจำนวนผู้โดยสารปีทั้งปี 2563-2564 ว่าจะลดลง 20% เมื่อเทียบกับปี 2562-2563 (YoY)

ขณะเดียวกัน BTS รายได้จากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย,สายสีชมพู, และสายสีเหลือง ขณะเดียวกันจะยังมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นซึ่งมาจากงาน E&M,งาน O&M, และการจัดหาขบวนรถให้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือที่ทยอยเปิดให้บริการ แม้ว่าธุรกิจสื่อและอสังหาริมทรัพย์มีนแนวโน้มจะมีรายได้ลดลง จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 13.50 บาท