รีเซต

ผู้ปกครองน.ร.5-11 ปี ยอมให้ลูกหลานฉีดไฟเซอร์ฝาสีส้มแล้วกว่า 8 หมื่นคน พร้อมรับเรียนออนไซต์

ผู้ปกครองน.ร.5-11 ปี ยอมให้ลูกหลานฉีดไฟเซอร์ฝาสีส้มแล้วกว่า 8 หมื่นคน พร้อมรับเรียนออนไซต์
มติชน
8 กุมภาพันธ์ 2565 ( 15:13 )
100

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.พ. ที่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้การให้บริการวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม กับกลุ่มอายุระหว่าง 5-11 ปี ตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนดนั้น มีความคืบหน้าอย่างมาก ตามรอบการจัดสรรวัคซีนซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มเด็ก หรือที่เรียกว่าวัคซีนฝาสีส้ม ให้แก่ จ.ขอนแก่น อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ทำให้อัตราการเร่งฉีดวัคซีนตามการยินยอมของผู้ปกครองนั้นมีอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทั้งบริเวณที่ให้บริการวัคซีนในสถานพยาบาล หรือหน่วยฉีดที่โรงพยาบาลกำหนด รวมไปถึงการให้บริการเชิงรุกฉีดให้กับเด็กๆ สถาบันการศึกษา

 

 

ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลนักเรียนในกลุ่มอายุ 5-11 ปี พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 130,000 คน ซึ่งขณะนี้ผู้ปกครองได้ยินยอมให้เด็กๆ เข้ารับการฉีดแล้วกว่าร้อยละ 70 หรือประมาณ 80,000 คน

 

จะเห็นได้ว่าในช่วงแรกที่รัฐบาลประกาศให้เด็กกลุ่มอายุ 5-11 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนนั้น ผู้ปกครองให้ความยินยอมประมาณ 20,000 คน แต่เมื่อเริ่มทำการฉีดวัคซีนในช่วงชั้นตามที่ฝ่ายการแพทย์กำหนด พบว่าผู้ปกครองเริ่มให้ความยินยอมและให้ความร่วมมือกับสถานศึกษาและ โรงพยาบาล นำพาบุตร-หลาน มาเข้ารับการฉีดในอัตราที่เพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมการให้บริการวัคซีนในกลุ่มอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปนั้น มีจำนวนผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภูมิคุ้มกันหมู่ของจังหวัดที่เพิ่มมากขึ้นและขยายวงการเพิ่มขึ้น

 

ดังนั้นแผนการพิจารณาการเปิดทำการเรียนการสอนที่โรงเรียนนั้น คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ได้มีมติให้สถานศึกษาตั้งแต่ระดับก่อนอนุบาล (เนสเซอรี่) อนุบาล ไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย พิจารณให้เปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ โดยยึดหลักเด็กๆ ได้รับวัคซีนแล้วมากกว่าร้อยละ 70

 

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มเนสเซอรี่,ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและระดับชั้นอนุบาล ที่จะเปิดทำการเรียนการสอนได้นั้น เมื่อการตรวจประเมินร่วมระหว่างคณะทำงานของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการผ่านเรียบร้อยตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว จังหวัดได้เพิ่มเงื่อนไขในการเปิดเรียนใน 3 ช่วงชั้นดังกล่าว คือผู้ปกครองจะต้องได้รับวัคซีนทั้งครอบครัวแล้วครบ 100% เช่นเดียวกันกับคณะครูและบุคลากรทางการศึกษาและบุคลากรของเนสเซอรี่,ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รวมไปถึงระดับชั้นอนุบาล ที่จะต้องได้รับวัคซีนครบ 100 % เช่นกัน

 

ซึ่งถือเป็นการตรวจซ้ำอีกครั้งตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด อย่างไรก็ตามขณะนี้จะเห็นได้ว่าแม้การพิจารณาอนุญาตให้เปิดเรียนแบบออนไซต์ได้แล้วในภาพรวมทั้งจังหวัดแต่หากมีการประเมินและพบความเสี่ยง หรือพบสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถที่จะสั่งปิดเรียนชั่วคราว เป็นระยะเวลา 7 วัน หรือ 14 วันได้โดยทันทีเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในภาพรวม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง