'นิคม'ชี้ควรจัดสรรงบสร้างระบบป้องกันข้อมูลรัฐสภา หลังถูกแฮคเกอร์โจรกรมมข้อมูล

‘นิคม’ชี้ควรจัดสรรงบสร้างระบบป้องกันข้อมูลรัฐสภา หลังถูกแฮคเกอร์โจรกรมมข้อมูล เชื่อหากสร้างตอนนี้ถูกกว่าไปแก้ทีหลัง เตรียมหารือ ชวน’หวั่นภาพลักษณ์เสียหาย-ขาดความน่าเชื่อถือ เผยกมธ.ดีอีเอสมีผู้เชี่ยวชาญเยอะพร้อมให้คำปรึกษา

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร การโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในเว็บไซต์รัฐสภาไทยว่า หลังจากที่กมธ.ดีอีเอส ทราบถึงการแฮคข้อมูลรัฐสภา และมีการนำข้อมูลไปขายในตลาดมืด ทางกมธ.จึงได้เชิญเจ้าหน้าที่มาหารือถึงผลความเสียหาย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเสียหายมากน้อยขนาดไหน โดยกมธ.เห็นว่าเราควรจะต้องมีการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับรัฐสภา แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่มาชี้แจง ไม่มีอนาจในการตัดสินใจ รวมถึงไม่มีงบประมาณในการจัดซื้อหรือสร้างระบบขึ้นมา ทำให้ยังไม่ได้ข้อสรุป ดังนั้นทางกมธ.จึงได้มีข้อเสนอการขอใช้งบประมาณฉุกเฉินเพื่อจัดการเรื่องนี้ เพราะในขณะนี้การสร้างอาคารรัฐสภายังไม่เสร็จ เราจึงควรที่จะวางระบบนี้ไปพร้อมๆกัน ซึ่งอาจจะต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา รวมถึงผู้ใหญ่ในสภาทราบ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ หากถูกแฮคข้อมูลอีก จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของรัฐสภาไทย

นายนิคม กล่าวอีกว่า วันนี้เทคโนโลยีต่างพัฒนาไปไกลมาก แฮคเกอร์ต่างๆก็มีความสามารถที่สูง ดังนั้นเราต้องวางระบบป้องกันให้ดี รัฐสภามีข้อมูลสำคัญมากมาย หากถูกโจรกรรมไปจะเสียหายต่อการทำงาน และควรมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาดูแล อย่างในกมธ.ดีอีเอส ก็มีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้หลายท่าน ที่พร้อมจะให้คำปรึกษา การสร้างรัฐสภาใหม่ ควรทำทุกอย่างให้เสร็จสมบูรณ์ไปพร้อมๆกัน จะใช้งบประมาณไม่มากนักเมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ดีกว่าไปแก้ไขทีหลัง ตรงนั้นอาจจะต้องใช้งบประมาณที่สูง ซึ่งวันนี้เรายังพูดคุยกันเป็นวงเล็กในกมธ. แต่ตนคิดว่าหากมีความจำเป็น เราอาจจะต้องนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชมสภาด้วย และตนคิดว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน น่าจะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ในการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เพราะนี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำงานและความน่าเชื่อถือของรัฐสภาไทย