รีเซต

“ออสเตรเลีย” ร้อนจัด ทุบสถิติอากาศร้อนเดือนต.ค. ซิดนีย์ใกล้แตะ 40 องศาฯ

“ออสเตรเลีย” ร้อนจัด ทุบสถิติอากาศร้อนเดือนต.ค. ซิดนีย์ใกล้แตะ 40 องศาฯ
TNN ช่อง16
24 ตุลาคม 2568 ( 10:30 )
8

อุณหภูมิเดือนตุลาคมในหลายรัฐของออสเตรเลียพุ่งทำลายสถิติ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าซิดนีย์และชายฝั่งตะวันออกจะเผชิญกับอากาศ “ร้อนเกินปกติ” ตลอดสัปดาห์นี้

เมื่อวันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เมืองเบิร์ดส์วิลล์ (Birdsville) ในรัฐควีนส์แลนด์ ทำสถิติอุณหภูมิสูงสุดใหม่ 46.1 องศาเซลเซียส ถือเป็นอุณหภูมิเดือนตุลาคมที่สูงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกในรัฐนี้ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย (BoM) รายงานว่าอุณหภูมิดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.28 น. ตามเวลาท้องถิ่น

กรมอุตุนิยมวิทยายังคาดว่าในวันพุธ (22 ต.ค.) อุณหภูมิในย่านธุรกิจใจกลางเมืองซิดนีย์จะสูงถึง 38 องศาเซลเซียส และหากเกินตัวเลขนี้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำลายสถิติเดิมของเดือนตุลาคมที่ 38.2 องศา ซึ่งบันทึกไว้เมื่อปี 2547 ที่สถานี Observatory Hill ขณะเดียวกันพื้นที่ชานเมืองทางตะวันตกของซิดนีย์อาจแตะระดับ 40 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุดใหม่ในเดือนตุลาคมยังเกิดขึ้นในหลายเมืองของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ควีนส์แลนด์ เซาท์ออสเตรเลีย และนิวเซาท์เวลส์ ระหว่างวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยบางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 16 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิที่ทำสถิติใหม่ ได้แก่ วินโดราห์ (43.2°C) และธาร์โกมันดาห์ (43.1°C) ในรัฐควีนส์แลนด์ เมืองมูมบา (Moomba) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเซาท์ออสเตรเลียแตะ 44.1°C ส่วนรัฐนิวเซาท์เวลส์มีสถิติใหม่ที่ทิโบบูร์รา (42.6°C) โคบาร์ (40.1°C) เพนริธ (39°C) และก็อสฟอร์ด (36.9°C)

นอกจากกลางวันร้อนจัดแล้ว ยังมีอุณหภูมิกลางคืนที่อบอ้าว ทำให้เกิดคลื่นความร้อนในหลายพื้นที่ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาออกคำเตือนภัยคลื่นความร้อนในบางส่วนของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี เซาท์ออสเตรเลียตอนเหนือ ควีนส์แลนด์ และนิวเซาท์เวลส์

ขณะเดียวกัน รัฐวิกตอเรีย เซาท์ออสเตรเลียตอนใต้ และแทสมาเนีย จะเริ่มมีอากาศเย็นลงพร้อมลมแรงและพายุ เนื่องจากมีกระแสลมเย็นพัดผ่านในช่วงกลางสัปดาห์ ด้านกรมอุตุนิยมวิทยายังออกประกาศเตือนภัยลมแรงในวันพุธ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ตอนใต้ เซาท์ออสเตรเลียตอนใต้ และเกือบทั้งรัฐวิกตอเรีย

ด้วยสภาพอากาศร้อน แห้ง และมีลมแรง ระดับความเสี่ยงไฟป่าสูงมากทั่วรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์ โดยได้ประกาศ “ห้ามจุดไฟโดยเด็ดขาด” ในหลายพื้นที่ ได้แก่ มหานครซิดนีย์ เขตฮันเตอร์ อิลลาวาร์รา โชลฮาเวน พื้นที่ตอนกลางตะวันตกตอนบน และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐ

ตำรวจดับเพลิงนิวเซาท์เวลส์รายงานว่า มีไฟป่าและไฟหญ้ารวม 32 จุดทั่วรัฐเมื่อวันอังคาร และยังมีอีก 11 จุดที่ยังควบคุมไม่ได้ “เรากำลังเผชิญกับอุณหภูมิสูง ลมแรง ความชื้นต่ำ และพื้นที่แห้งมาก รวมทั้งมีเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มความเสี่ยงของไฟป่า” เจ้าหน้าที่กล่าว

หน่วยดับเพลิงและกู้ภัยนิวเซาท์เวลส์ (Fire and Rescue NSW) กล่าวว่าได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและอาสาสมัครทั่วรัฐ พร้อมจัดเตรียมกำลังคน เครื่องบินดับเพลิง และทีมเฉพาะกิจไว้รับมือฉุกเฉิน

เจ้าหน้าที่แนะนำประชาชนให้เตรียมความพร้อม เช่น กวาดเศษใบไม้และซากไม้แห้งออกจากหลังคาและสนามบ้าน ย้ายสิ่งของติดไฟได้ออกห่างจากตัวบ้าน ตรวจสอบสายยางและปั๊มน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และวางแผนการอพยพในกรณีอยู่ในพื้นที่เสี่ยงไฟป่า


ขณะเดียวกัน หน่วยงานจัดการพลังงานแห่งชาติ (AEMO) ยืนยันว่ามีปริมาณไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการในรัฐนิวเซาท์เวลส์ พร้อมมีมาตรการสำรองในกรณีฉุกเฉิน

องค์กรช่วยเหลือสัตว์ป่า Wires เตือนว่าคลื่นความร้อนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสัตว์ ทั้งอาการขาดน้ำ อ่อนแรง หรือเสียชีวิต ประชาชนสามารถช่วยได้โดยวางถ้วยน้ำตื้น ๆ ไว้นอกบ้าน และหากพบสัตว์มีอาการเครียดจากความร้อน ควรรีบแจ้งหน่วยช่วยเหลือ นอกจากนี้ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาไว้ในที่ร่มหรือในบ้าน

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ความร้อนจะเริ่มคลี่คลายบริเวณชายฝั่งตะวันออกและเซาท์ออสเตรเลียภายในสิ้นสัปดาห์ ยกเว้นรัฐควีนส์แลนด์ที่จะยังคงร้อนกว่าปกติไปจนถึงสัปดาห์หน้า โดยไม่มีสัญญาณของอากาศเย็นลงในเร็ววัน

ปัจจุบัน อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งประเทศของออสเตรเลียสูงกว่าช่วงปี พ.ศ. 2453 ราว 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์อากาศสุดขั้วบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้นทั่วประเทศ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง