รีเซต

"Baidu" เลิกจ้างครั้งใหญ่ รายได้-กำไรร่วง หันทุ่มสู่ AI

"Baidu" เลิกจ้างครั้งใหญ่ รายได้-กำไรร่วง หันทุ่มสู่ AI
TNN ช่อง16
1 ธันวาคม 2568 ( 13:21 )

รอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าว 6 รายที่ใกล้ชิดกับบริษัทระบุว่า Baidu ผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจินรายใหญ่ที่สุดของจีน เริ่มกระบวนการเลิกจ้าง (layoffs) รอบใหม่ตั้งแต่สัปดาห์นี้ โดยจะกระทบหลายหน่วยธุรกิจ และมีแนวโน้มดำเนินไปจนถึงช่วงสิ้นปี 2568

แม้ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเลิกจ้างทั้งบริษัทอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวภายในระบุว่า ภายในองค์กรรับรู้ว่าครั้งนี้เป็นการปรับลดขนาดใหญ่ โดยบางทีมอาจถูกลดคนสูงสุดถึงราวร้อยละ 40 ขึ้นอยู่กับผลการประเมินผลงานและสถานะของแต่ละหน่วยธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ Mobile Ecosystem ซึ่งเป็นแกนรายได้จากบริการบนมือถือและแพลตฟอร์มโฆษณา ถูกระบุว่าจะได้รับผลกระทบหนักสุดจากรอบนี้ ขณะที่ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบคลาวด์ส่วนใหญ่จะได้รับการคุ้มครองไว้ แหล่งข่าว 4 รายชี้ตรงกันว่า บริษัทมีแผนโยกทรัพยากรและงบลงทุนไปสู่ด้าน AI มากขึ้นอย่างชัดเจน

ข้อมูลในรายงานประจำปีระบุว่า ณ สิ้นปีที่แล้ว Baidu มีพนักงาน 35,900 คน ลดลงจาก 39,800 คนในปี 2566 และ 41,300 คนเมื่อปีก่อนหน้า สะท้อนว่าบริษัททยอยลดขนาดองค์กรต่อเนื่องหลายปีแล้ว อย่างไรก็ดี ไป่ตู้ยังไม่ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่อข้อมูลการเลิกจ้างรอบล่าสุดนี้

การปลดคนเกิดขึ้นหลังจาก Baidu รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยบริษัทเผชิญภาวะรายได้หดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน รายได้รวมลดลงร้อยละ 7 ขณะที่รายได้จากโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ลดลงรุนแรงถึงร้อยละ 18 บริษัทขาดทุนสุทธิ 11.23 พันล้านหยวน ในไตรมาสดังกล่าว

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Baidu ลงทุนอย่างหนักในเทคโนโลยี AI หวังต่อยอดจากจุดแข็งด้านเสิร์ชไปสู่ธุรกิจยุคใหม่ แต่จนถึงปัจจุบัน การลงทุนดังกล่าวยังไม่สามารถพลิกฟื้นการเติบโตในธุรกิจโฆษณาออนไลน์ได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งตลาดโฆษณาได้ถูกแย่งชิงไปโดยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและวิดีโอสั้นอย่าง RedNote (Xiaohongshu) และ Douyin ของ ByteDance

ในสนาม AI เชิงผู้บริโภค ไป่ตู้ถือเป็นหนึ่งในรายใหญ่รายแรกของจีนที่เปิดตัวบริการสไตล์ ChatGPT ในปี 2566 ภายใต้ชื่อ “Ernie Bot” แต่เมื่อการแข่งขันรุนแรงขึ้น บริษัทกลับถูกมองว่าความได้เปรียบเริ่มถดถอยเมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งจากกลุ่มอีคอมเมิร์ซและสตาร์ตอัป AI อาทิ Alibaba และ DeepSeek

การปรับลดพนักงานในภาคอินเทอร์เน็ตจีนไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ Alibaba และ Tencent ก็เคยปลดพนักงานรวมกันหลายหมื่นคนในปี 2565 เพื่อลดต้นทุนและปรับตัวต่อมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดของรัฐบาลจีน ขณะที่ในสหรัฐ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Amazon และ IBM ก็เดินหน้าปรับโครงสร้างและปลดพนักงานหลายพันตำแหน่งทั่วโลกเช่นกัน 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง