รีเซต

รู้จัก 'Let Them Theory' ปล่อยเขาเป็นแบบที่เป็น : ทฤษฎีฮีลใจจิตวิทยาสุดฮิตของคน GEN Z เมื่อชีวิต 'ไม่เป็นดั่งหวัง'

รู้จัก 'Let Them Theory' ปล่อยเขาเป็นแบบที่เป็น : ทฤษฎีฮีลใจจิตวิทยาสุดฮิตของคน GEN Z เมื่อชีวิต 'ไม่เป็นดั่งหวัง'
TNN ช่อง16
13 สิงหาคม 2568 ( 16:49 )
18

ในวันที่อะไรหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่หวัง บางครั้ง…คำว่า “ช่างมันเถอะ” ก็อาจกลายเป็นคำที่ช่วยฮีลใจเราได้ดีที่สุด วันนี้เราจะชวนคุณมารู้จักกับ Let Them Theory แนวคิดที่บอกให้เรา “ปล่อยให้เขาเป็น…อย่างที่เขาอยากเป็น” เพราะความทุกข์หลายครั้ง ไม่ได้เกิดจากสิ่งที่คนอื่นทำ แต่มาจากสิ่งที่ “เขาไม่ทำตามที่เราคาดหวังไว้” และเมื่อเรายอมรับความจริงข้อนั้นได้ ใจเราก็จะสงบขึ้น…แบบที่ไม่ต้องพยายามควบคุมอะไรอีกเลย


เพราะความหวัง คือแรงผลักดันของชีวิตมนุษย์

เราทุกคนล้วนเคยคาดหวัง…จากตัวเองและสิ่งรอบข้างโดยรู้และไม่รู้ตัว 

  • ว่าเขาจะตอบแชทเราเหมือนที่เราตอบเขา

  • ว่าเจ้านายจะเห็นความตั้งใจของเราแล้วเลื่อนตำแหน่งให้

  • ว่าการทำดีจะได้ความดีตอบ

  • ว่าการลงคลิปด้วยใจ จะมีคนเห็นค่า

แต่ของคู่กันกับความหวัง ก็มักจะพ่วงมาด้วยความเสี่ยงของ “ความผิดหวัง” โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ในยุค Gen Y - Z

ที่เติบโตมาท่ามกลางแรงกดดันรอบด้าน—ต้องเรียนเก่ง ต้องปัง ต้องไม่ตกเทรนด์ ต้องเป็นที่ยอมรับ และเมื่อโลกไม่ตอบสนองกลับมาดังที่หวัง

เราก็มักจะรู้สึกว่า…เราน่าจะ “ยังไม่ดีพอ” พาลเอาใจหงุดหงิด ทุกข์ใจ ว้าวุ่น กับสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน การหา พื้นที่สงบ และ ปลอดภัยกับใจตัวเอง จึงเป็นสิ่ง

ที่ เด็ก GEN ใหม่พยายามหาเพื่อฮีลใจตัวเองให้ได้ ท่ามกลางความวุ่นวายในแต่ละวัน  ทฤษฎี Let Them Theory จึงกำลังเป็นที่นิยมอยู่ ณ ปัจจุบัน


ทฤษฎี Let Them Theory คืออะไร?

ทฤษฎีนี้ไม่ได้มีที่มาจากวงการวิชาการ  แต่ถูกทำให้เป็นที่รู้จักโดยนักพูดชื่อดัง Mel Robbins และกลายเป็นไวรัลจาก TikTok เมื่อปี 2023

โดยคนรุ่นใหม่จำนวนมากหยิบไปใช้ในการฮีลใจตัวเอง หัวใจสำคัญของ Let Them Theory คือ…

“ปล่อยให้คนอื่นเป็น ในแบบที่เขาเป็น
โดยไม่พยายาม ควบคุม หรือ เปลี่ยนแปลงให้ตรงกับความต้องการของเรา
เพราะสิ่งเดียวที่เราควบคุมได้จริง ๆ…มีแค่ตัวเราเอง ”

ความทุกข์จึงไม่ได้มาจากการที่เขาทำอะไร หรือ ไม่ทำอะไรให้เรา

แต่มาจากการที่เขา “ไม่ทำอย่างที่เราหวังไว้” 

ยิ่งปล่อย ยิ่งสงบ

หากเรายอมรับได้ว่า…ไม่มีใครสมหวังไปทุกอย่าง และ เราไม่สามารถควบคุมคนอื่นได้ 

ทำได้เพียง ยอมรับ และ ปล่อยสิ่งที่ไม่เป็นไปดั่งหวังออกไป

มองว่า เขาก็เป็นแบบนั้นของเขา  ปล่อยเขาทำไป และ ปล่อยใจเราให้ปราศจาก ความต้องการควบคุม

  • เขาไม่ตอบแชท 👉 Let them not reply

  • เขา ghost เรา 👉 Let them ghost

  • เขา unfollow เรา 👉 Let them unfollow

  • เขาเข้าใจเราผิด แม้เราพยายามอธิบาย 👉 Let them believe whatever they want


เราก็จะเริ่มเห็นว่า การฝืนให้คนอื่นเปลี่ยนความคิด ไม่ต่างอะไรกับการกักขังหัวใจตัวเองไว้ในความ คาดหวัง

แต่ Let Them Theory ไม่ได้แปลว่า “ช่างแม่ง” โดยไร้การรับผิดชอบ

แนวคิดนี้ไม่ได้บอกให้เราตัดขาด ไม่แคร์ ไม่ใส่ใจโลก แต่มันสอนให้เรา “ตั้งคำถามกับตัวเอง” มากกว่าว่า

สิ่งนี้…ฉันควบคุมได้ไหม?
ถ้าคำตอบคือไม่ได้…ก็ Let Them Out of Your Head 

เพราะต่อให้เราพยายามมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครอยู่ภายใต้การควบคุมของเราได้จริงก

และเราก็ไม่ควรเอาคุณค่าของตัวเอง ไปผูกไว้กับการตอบสนองของคนอื่น


ประโยชน์ของการใช้ Let Them Theory ได้สำเร็จ:


  • ใจสงบ เพราะเลิกพยายามควบคุมสิ่งที่เกินกำลัง

  • ไม่ต้อง overthink กับคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น

  • คืนพื้นที่หัวใจให้กับความสุขเล็ก ๆ ที่เราสร้างเอง

  • เปิดโอกาสให้คนที่เห็นค่าจริง ๆ ได้เข้ามาในชีวิต

  • และที่สำคัญที่สุด…

    คือเราได้ เลือกตัวเอง อีกครั้ง


ในวันที่อะไรหลายอย่างในชีวิตไม่เป็นดั่งหวัง

ขอแค่เรายังเลือกได้ว่า  จะไม่ยื้อ ไม่ฝืน ไม่วิ่งตามใครอีกแล้ว

เพราะเรารู้แล้วว่า…


“เราอาจจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย
แต่เราควบคุม ความสงบ ในใจตัวเองได้
จากการ…ช่างมันเถอะ”

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง