ฟู้ดอโมเม้นท์ ตั้งเป้าขยาย1พันสาขาปูทางเข้าmai

นายเจตุบัญชา อำรุงจิตชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดอโมเม้นท์ จํากัด ผู้นำธุรกิจแฟรนไชส์สตรีทฟู้ด เจ้าของแบรนด์ “ลูกชิ้นจัง” แฟรนไชส์ลูกชิ้นทอดรายแรกของไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันแฟรนไชส์ลูกชิ้นจัง มี 600 สาขา ครอบคลุมทั้งในห้างสรรพสินค้าชั้นนำและแหล่งชุมชนในจังหวัดต่างๆ โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายผ่านสาขาร้านแฟรนไชส์และสาขาของบริษัทที่ตั้งอยู่ในสถานบริการน้ำมัน ปตท. ได้ถึง 100 ล้านบาทต่อปี

สำหรับแผนต่อไปในการขยายธุรกิจของ ‘ฟู้ดอโมเม้นท์’ ให้เติบโตขึ้น นายเจตุบัญชา เผยว่า จากภาพรวมตลาดของทานเล่นในประเทศไทยที่มีมูลค่าประมาณ 38,000 ล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นปีละ 2-3%  ถือเป็นโอกาสที่บริษัทฯ ต้องเร่งวางแผนการดำเนินงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อขยายแฟรนไชส์ลูกชิ้นจังเพิ่มจาก 600 สาขา เป็น 1,000 สาขา โดยให้ความสำคัญกับการเปิดสาขาในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เป็นหลัก ด้วยแนวคิด “การอยู่คู่นักเดินทาง” เพื่อขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มนักเดินทางเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังเตรียมแตกไลน์สินค้า และบริการใหม่รองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค New Normal ด้วยการเปิด Co-Kitchen Space ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เล็งเห็นร้านสตรีทฟู้ดของผู้เล่นหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด ยังขาดประสบการณ์ด้านการวางแผนธุรกิจให้ครอบคลุมพื้นที่เพื่อจัดส่ง Delivery ให้กับร้านค้าของตนเอง การมี Co-Kitchen Space จะช่วยตอบโจทย์ปัญหาพวกนี้ได้ และเปิดบริการ Food Platform แหล่งรวมร้านค้าผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อเชื่อมต่อธุรกิจให้ง่ายขึ้น ลูกค้าสามารถค้นหาและส่งซื้อสินค้าได้สะดวกสบายผ่าน www.lookchinjung.com  และ www.foodamoment.com โดยบริษัทฯ จะอำนวยความสะดวกด้านการประสานงาน ติดต่อโรงงานและซัพพลายเออร์ รวมถึงจัดโปรร่วมกัน (Collaboration) ผ่านช่องทางแฟนเพจ foodamoment

อีกหนึ่งแผนงานที่มีการปรับตัวในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา คือ บริษัทฯ ได้ตั้งหน่วยธุรกิจใหม่เพื่อบริหารจัดการเรื่องเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ หลังยอดขายจากการส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ (Delivery) เพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20% พร้อมเตรียมเปิดสาขาเรือธง (Flagship Store) ในจุดที่สำคัญทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อจัดจำหน่ายเครื่องดื่มและลูกชิ้นทอดในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้กับลูกค้า และดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาสู่แบรนด์มากขึ้น และยังเป็นศูนย์กระจายสินค้า ไปยังสาขาในแต่ละจังหวัด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งโดยตรงจากสำนักงานใหญ่อีกด้วย

สำหรับแผนในระยะยาว บริษัทกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อเปิดโอกาสในการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งรองรับแผนขยายธุรกิจและยกระดับสตรีทฟู้ด (Street Food) ของประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล โดยตั้งเป้าหมายขยายฐานลูกค้านักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพื่อผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาท ภายใน 3 ปี หรือมียอดขายรวม 300-400 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 30% ของมูลค่าตลาดลูกชิ้นทอด 1,000 ล้านบาท