การฉีดวัคแบบผสมสูตรสามารถสร้างแอนติบอดี ก่อภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ได้สูงถึง 6 เท่า
27 กรกฎาคม 2564 ( 09:59 )
72
Covid-19: ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งจากเกาหลีใต้ พบว่า การฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แบบผสมสูตร เข็มแรกเป็น AstraZeneca และตามด้วยของ Pfizer เป็นเข็มสอง สามารถสร้างแอนติบอดี ก่อภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ได้สูงถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีน AstraZeneca ทั้งสองเข็ม
ผลการศึกษาบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 499 คน ซึ่งแบ่งกลุ่มดังนี้ 100 คนได้รับวัคซีนสูตรผสม, 200 คนรับวัคซีนของ Pfizer 2 เข็ม และที่เหลือรับวัคซีน AstraZeneca 2 เข็ม
ทุกกลุ่มพบว่าสามารถก่อภูมิคุ้มกันป้องกันไวรัสโควิดไม่ให้เข้าสู่เซลล์และทำสำเนาใหม่ได้, ผลการศึกษาของการฉีดวัคซีนสูตรผสมนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าก่อภูมิคุ้มกันโรคในระดับเดียวกับที่พบจากกลุ่มที่ได้รับวัคซีน Pfizer ทั้งสองโดส
ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งของอังกฤษเมื่อเดือนที่แล้ว ก็พบว่าได้ผลลัพธ์ในลักษณะเดียวกัน คือ ฉีดวัคซีน AstraZeneca ตามด้วย Pfizer พบว่าตอบสนองต่อการผลิตที-เซลล์ หรือเซลล์เม็ดเลือดขาวได้ดีในการต่อสู้กับไวรัส และยังสร้างแอนติบอดี ก่อภูมิคุ้มกันสูงกว่าเมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีน Pfizer เป็นเข็มแรกและวัคซีน AstraZeneca ตามเป็นเข็มสอง
ข้อมูลดังกล่าว ยิ่งเป็นการสนับสนุนการตัดสินใจของหลายประเทศที่เสนอให้มีการฉีดวัคซีนทางเลือก ฉีดวัคซีน AstraZeneca เป็นเข็มที่ 2 หลังจากวัคซีนชนิดนี้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีน
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลี หรือ KDCA ระบุว่า การศึกษาของเกาหลีใต้ยังได้วิเคราะห์ถึงการหยุดยั้งเชื้อไวรัสกลายพันธุ์หลากหลายที่น่ากังวลด้วย
ทั้งนี้ ยังไม่พบว่ามีกลุ่มใดในการศึกษาครั้งนี้ มีภูมิคุ้มกันลดลงเมื่อเจอกับเชื้อกลายพันธุ์ “Alpha” ที่พบครั้งแรกในอังกฤษ แต่ความสามารถในการยับยั้งไวรัสลดลง 2.5-6 เท่า เมื่อเจอกับสายพันธุ์ Beta, Gamma และ Delta ซึ่งพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้, บราซิล และ อินเดียตามลำดับ