รีเซต

ผู้ถือหุ้นแบงก์เฮ! รับทรัพย์เงินเข้าเป๋าตุง

ผู้ถือหุ้นแบงก์เฮ! รับทรัพย์เงินเข้าเป๋าตุง
TNN Wealth
22 กันยายน 2564 ( 17:10 )
91

แบงก์พาเหรดจ่ายปันผลคึกคัก! ผู้ถือหุ้นเตรียมรับทรัพย์สัปดาห์นี้ ด้านโบรกมองธุรกิจธนาคารพาณิชย์ฟื้นตัวปีหน้าตามภาวะเศรษฐกิจ แนะลงทุนระยะยาว 6-12 เดือนทยอยสะสมหากดัชนีย่อตัวลง


สัปดาห์นี้เป็นอีกสัปดาห์หนึ่งที่บริษัทจดทะเบียน(บจ.) เริ่มประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยจากการสำรวจข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)พบว่า หุ้นธนาคารพาณิชย์หลายตัวเริ่มจะจ่ายปันผลสัปดาห์นี้ หลังจากที่ขึ้นเครื่องหมาย XD ประกอบด้วย

 

BAY จ่ายปันผลวันที่ 22 ก.ย. 0.40 บาทต่อหุ้น อัตราเงินปันผลตอบแทน (dividend yield)อยู่ที่ 1.13%

SCB จ่ายปันผลวันที่ 23 ก.ย. 1.43 บาทต่อหุ้น dividend yield 2.21%

BBL จ่ายปันผลวันที่ 23 ก.ย. 1.00 บาทต่อหุ้น dividend yield 2.23 %

KBANK จ่ายปันผลวันที่ 23 ก.ย. 0.50 บาทต่อหุ้น dividend yield 2.09%

KKP จ่ายปันผลวันที่ 23 ก.ย. 0.75 บาทต่อหุ้น dividend yield 4.25%

 

 

นายธนวัฒน์ รื่นบันเทิง นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์คาดว่าปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิดสินเชื่อหดตัว ประกอบกับลูกหนี้บางส่วนมีปัญหาความสามารถในการชำระหนี้ทำให้ธนาคารมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นจากปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลที่สูงขึ้น

 

ทั้งนี้มองว่าหุ้นกลุ่มแบงก์จะปรับตัวดีขึ้นในปีหน้าช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดให้บริการตามปกติส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยราคาหุ้นช่วงนี้เป็นโอกาสที่สะสมหากต้องการลงทุนระยะยาว 6-12 เดือน

 

" ต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อปรับลดลงต่อเนื่องหรือไม่ และแผนการฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผนหรือเปล่า เพราะหากมีการเปิดประเทศ

เชื่อว่าธีมหุ้นเปิดเมืองน่าสนใจลงทุน แต่ต้องซื้อสะสมไว้ไม่ใช่ซื้อช่วงที่เปิดประเทศเพราะอาจทำให้หุ้นมีราคาแพงไปแล้ว"

 

ทั้งนี้แนะนำ SCB เนื่องจากเน้นหารายได้จากธุรกิจดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่น และธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่ม เช่น โรบินฮู้ด และรายได้มีแนวโน้มเติบโต ราคาเป้าหมาย 136 บาท จากราคาปิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย.อยู่ที่ 107.50 บาท

 

หุ้นเด่นอีกตัวคือ TTB ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่แย่ที่สุดแล้วและราคาหุ้นถูกที่สุดในกลุ่มหลังจากที่ต้องดำเนินการในเรื่องการควบรวมกิจการและปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานลดความซ้ำซ้อนการทำงาน เพื่อลดต้นทุน และที่ผ่านมามีการตั้งสำรองไว้สูง และคาดว่าปีหน้าจะกำไร ราคาเป้าหมาย 1.50 บาท จากราคาปิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย.อยู่ที่ 1.07 บาท

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง