โควิด-19: ไวรัสสายพันธุ์เดลตาลามไม่หยุด ระบาดเพิ่มอีกหลายเมืองทางตะวันออกของจีน
การระบาดครั้งใหม่ของโรคโควิด-19 ในจีน ซึ่งถือว่าร้ายแรงที่สุดในรอบหลายเดือน ยังคงลุกลามขยายวงกว้างออกไปอีกในหลายมณฑลทางตะวันออกของประเทศ โดยในช่วง 10 วันที่ผ่านมา มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ได้รับการยืนยันแล้วกว่า 300 ราย ใน 15 มณฑลด้วยกัน
กรณีของผู้ติดเชื้อที่พบใน 12 มณฑล จาก 15 มณฑลข้างต้น มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์การระบาดซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่เมืองนานกิงในมณฑลเจียงซูเมื่อปลายเดือนที่แล้ว โดยทางการจีนแสดงความเป็นห่วงว่า การระบาดครั้งนี้จะมีความรุนแรงยิ่งกว่าเก่า เพราะเป็นการแพร่กระจายของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ชนิดเดลตา ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวภายในประเทศ
ที่เมืองซูโจวในมณฑลหูหนาน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของจีน ทางการได้สั่งล็อกดาวน์โดยห้ามประชาชนกว่าหนึ่งล้านคนออกนอกเคหสถานเป็นเวลา 3 วัน พร้อมกับเร่งตรวจหาเชื้อและฉีดวัคซีนกันอย่างเต็มที่
ส่วนที่เมืองจางเจียเจี้ยซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของมณฑลหูหนาน ทางการท้องถิ่นได้สั่งปิดโรงละครขนาดใหญ่กว่า 2,000 ที่นั่ง หลังพบว่าผู้ติดเชื้อที่เมืองนานกิงได้เดินทางไปเยือนจางเจียเจี้ยเมื่อไม่นานมานี้ และได้เข้าชมการแสดงที่โรงละครดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งติดตามนักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยงราว 5,000 คน ซึ่งได้เข้าชมการแสดงที่นั่นด้วยเช่นกัน
ทางการยังสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในเมืองจางเจียเจี้ยลงทั้งหมด ส่วนบรรดานักท่องเที่ยวจากต่างมณฑลก็จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิดเสียก่อน จึงจะเดินทางกลับภูมิลำเนาได้
นายแพทย์จง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินหายใจของจีนบอกว่า "จางเจียเจี้ยได้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ของประเทศไปเสียแล้ว"
นอกจากนี้ เชื้อสายพันธุ์เดลตายังแพร่กระจายไปถึงในกรุงปักกิ่งด้วย โดยมีรายงานการติดต่อของโรคภายในท้องถิ่นหลายกรณีแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งระงับการเดินทางทั้งทางบกและทางอากาศระหว่างกรุงปักกิ่งกับเมืองที่พบผู้ติดเชื้อ รวมทั้งห้ามนักท่องเที่ยวทุกคนเดินทางเข้านครหลวง เว้นแต่ผู้ที่มีเหตุจำเป็นซึ่งมีผลการตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ
ส่วนที่เมืองอู่ฮั่นในมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งแรกของโรคโควิด-19 นั้น ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาแล้ว 7 ราย หลังจากไม่พบการติดเชื้อในท้องถิ่นมานาน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ของปีที่แล้ว
ด้านเมืองเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนาน ซึ่งเพิ่งประสบอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่ผ่านมา รวมทั้งที่เกาะไหหลำทางตอนใต้ของประเทศ ต่างก็มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของทางการจีน เรียกเหตุแพร่กระจายเชื้อระลอกใหม่นี้ว่า "การระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดนับแต่อู่ฮั่นเป็นต้นมา" ทั้งยังตีพิมพ์บทบรรณาธิการวิพากษ์วิจารณ์ถึง "ช่องโหว่ขนาดใหญ่" ในมาตรการป้องกันโรคระบาดของรัฐบาลจีนด้วย
การระบาดครั้งนี้ยังก่อให้เกิดคำถามถึงประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์ม ซึ่งเป็นวัคซีนตัวหลักที่จีนฉีดให้กับประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ หลังพบผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วติดเชื้อหลายราย แต่นักวิจัยของทางการจีนชี้แจงว่ากรณีดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ ในขณะที่วัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพดีในการป้องกันไม่ให้เกิดอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิต
ก่อนหน้านี้งานวิจัยของจีนเผยว่า เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาแบ่งตัวเพิ่มจำนวนในร่างกายมนุษย์ได้เร็วกว่าไวรัสชนิดดั้งเดิมถึง 1,000 เท่า แพทย์จากหลายประเทศทั่วโลกยังรายงานว่า เชื้อสายพันธุ์เดลตาแพร่กระจายและติดต่อกันได้ง่ายขึ้นกว่าเก่า ส่วนผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาดูจะมีอาการทรุดหนักลงเร็วกว่า และต้องให้ออกซิเจนหลังเริ่มป่วยได้เพียงไม่นาน