กนอ.โชว์ 6 เดือน ยอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมฯ โต 31.70% มั่นใจทั้งปีตามเป้า ฟุ้งญี่ปุ่นลงทุนต่อเนื่อง
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.2564 - มี.ค. 2565) กนอ. มียอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 785.33 ไร่ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.70% ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนรวม 59,872 ล้านบาท เนื่องจากความเชื่อมั่นในโครงการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานหลักในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 4 โครงการหลักที่มีความคืบหน้าชัดเจน ดังนั้นปี 2565 คาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนรวมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสูงถึง 177,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซีจะเพิ่มขึ้นมาก
“กนอ. ตั้งเป้ายอดขาย/เช่า พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในปี 2565 ไว้ที่ ประมาณ 1,770 ไร่ มากกว่าปีที่ผ่านมาเพราะการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีมากขึ้นโดยเฉพาะหลังการเปิดประเทศ ประกอบกับการสำรวจความคิดเห็น จากองค์กรส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ซึ่งพบว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถึง 40-50% ยังมั่นใจและตั้งใจขยายการลงทุนต่อในประเทศไทย อีก 30% ยังคงมีแผนการลงทุนเดิม เพราะมั่นใจโครงสร้างพื้นฐานหลักในพื้นที่อีอีซี และมองว่าการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะทำให้เกิดการย้ายฐานการลงทุนมายังภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้นเพราะมีความปลอดภัย เศรษฐกิจเติบโตสูง”
สำหรับยอดการจอง/ชื้อ/เช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน และนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเองในช่วง 6 เดือนแรกปีงบประมาณในพื้นที่อีอีซีมียอดเช่า/ขาย 669.73 ไร่ และนอกพื้นที่อีอีซี 115.60 ไร่ มีการแจ้งเริ่มประกอบกิจการ และใบขออนุญาตส่วนขยาย 40 ราย เกิดการจ้างงาน 17,905 คน โดยนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นยังคงครองแชมป์ให้ความสนใจมาลงทุนมากเป็นอันดับหนึ่งถึง 40% รองลงมา คือ นักลงทุนจากประเทศจีน 20% และนักลงทุนจากสหรัฐ อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ 10%
ปัจจุบันกนอ. มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ประมาณ 180,082 ไร่ เป็นพื้นที่ขาย/ให้เช่าแล้ว 92,174 ไร่ และยังคงมีพื้นที่คงเหลือสำหรับขาย/ให้เช่าอีก 26,493 ไร่ มีมูลค่าการลงทุนสะสม 5.51 ล้านล้านบาท มีโรงงานในนิคมฯ 5,098 โรง และมีการจ้างงานรวมทั้งสิ้น 907,172 คน
นายวีริศกล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้อนุมัติให้กนอ.จัดตั้งบริษัทร่วมทุนธุรกิจวิศวกรรมพลังงานเพื่อการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ด้านพลังงานเช่น หลอดไฟโซลาร์เซลล์ ระบบหล่อเย็นในโรงงาน กนอ.ถือหุ้น 25% ร่วมกับเอกชนด้านพลังงานชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ซึ่งจะต้องเจรจารายละเอียดเพิ่มเติม คาดว่าจะสรุปได้เร็วๆ นี้ อีกทั้งกนอ. กำลังศึกษาแนวทางจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งที่กนอ.ถือหุ้น 100% เพื่อไปถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ที่กนอ.จะร่วมลงทุน ตามที่บอร์ดกนอ.แนะนำ คาดว่าจะเสร็จใน 1-2 เดือนนี้
“ในอนาคตนอกจากธุรกิจใหม่ๆ กนอ. ยังศึกษาควบคู่การลงทุนด้านอื่นๆ เช่น ผลิตไฟฟ้า บริหารจัดการน้ำฯ โดยบอร์ดแนะนำให้ตั้งบริษัทโฮลดิ้งไปลงทุนกับบริษัทนั้นๆ ที่กนอ.เติมเงินเข้าไปในบริษัทโฮลดิ้งส์จะได้ไม่ต้องขออนุมัติจากสศช.บ่อยๆ จากเดิมที่ กนอ. จะเข้าไปร่วมทุนทีละบริษัท ซึ่งพ.ร.บ.กนอ. เอื้อให้กนอ. ตั้งบริษัทลูกได้ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มและนั่นหมายถึงรายได้เข้ารัฐที่จะเพิ่มไปด้วย แต่ตามพ.ร.บ.กำหนดว่าหากถือหุ้นเกิน 25% ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ เราเลยถือในอัตรานี้ก่อน และค่อยถือมากขึ้นแต่ไม่เกิน 49% เพื่อไม่ให้เป็นรัฐวิสาหกิจ“