CENTELแห่จองพักยาวขึ้น ลุ้นอีบิทด้าโรงแรมพลิกบวก
#CENTEL #ทันหุ้น – CENTELมั่นใจภาพรวมธุรกิจฟื้นตัวแกร่ง ลั่นธุรกิจอาหารยังทำกำไรแม้ต้นทุนพุ่ง ด้านธุรกิจโรงแรมมีแววอีบิทด้าพลิกบวกได้หลังนักท่องเที่ยววางแผนเดินทางยาวขึ้น ดันอัตราการจองห้องพักเฉลี่ยทั้งปี 40-50% รายได้เฉลี่ยต่อห้อง 1.7-1.9 พันบาท ด้านผลสำรวจสมาคมโรงแรมชี้ไตรมาส 4 ดี แต่กังวลต้นทุนเร่งตัว และปัญหาขาดแคลนแรงงาน
นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และรองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยภาพรวมอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate)ของโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของทั้งในไทย และต่างประเทศงวดไตรมาส 2/2565 ทำได้ประมาณ 48% และยอดจองห้องพัก “On The Book” งวดไตรมาส 3/2565 ณ ปัจจุบันเฉลี่ยประมาณ 42-48%โดยเป็นยอดจองทั้งจากนักท่องเที่ยวไทย และต่างชาติซึ่งคาดว่าจะได้รับการยืนยันเกือบทั้ง 100%
“แม้ปกติไตรมาส 2/2565 จะเป็นช่วง “โลว์” ของธุรกิจแต่ในปีนี้ได้นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ทยอยเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะที่มัลดีฟส์ มีนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร (UK) อินเดีย สหรัฐอเมริกา ฯลฯ เดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่วนที่ดูไบนักท่องเที่ยวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เองเดินทางกันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้ามาพอสมควร ส่วนในไทยก็ได้การเดินทางท่องเที่ยวช่วงเมษายน-พฤษภาคม ส่งผลให้ประมาณการอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ช่วงดังกล่าวยังคงเฉลี่ยได้ที่ 70%และรายได้เฉลี่ยต่อห้องที่มีอยู่ (RevPar) ยังคงทรงตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ Occupancy Rate เฉลี่ยทั้งไตรมาส 2/2564 จะทำได้ถึง 48% สูงกว่างวดไตรมาส 1/2565 ที่ 35% และสูงกว่าประมาณการเดิมที่ 45%”
ขณะเดียวกันบริษัทเริ่มเห็นยอดจองห้องพัก “On The Book” ของโรงแรมทั้งที่บริษัทเป็นเจ้าของ และรับจ้างบริหารทั้งในไทย และต่างประเทศงวดไตรมาส 4/2565 ทยอยจองเข้ามาทั้งจากนักท่องเที่ยวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะกระบี่, ภูเก็ต, และมัลดีฟส์ จึงคาดว่ายอดจองห้องพักเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 4/2565 จะเร่งตัวขึ้นแตะ 60% ได้จากการผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงรัฐบาลยังคงกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศทั้งการท่องเที่ยวกับครอบครัว – กลุ่มขนาดเล็กผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และการอบรม – สัมมนาผ่านมาตรการภาษี
“บริษัทเริ่มเห็นการวางแผนระยะยาวเพื่อเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลของนักท่องเที่ยวมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่จะจองที่พักช่วงใกล้ๆ จะเดินทาง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีท่ามกลางภาวะค่าครองชีพที่เร่งตัวขึ้น ดังนั้นจึงค่อนข้างมั่นใจว่ารายได้รวมทั้งปีของกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวแข็งแกร่ง และมีลุ้นว่า EBITDA ทั้งปี 2565จะสามารถพลิกเป็นบวกได้ จากตอนต้นที่ที่คาดว่า EBITDAเฉพาะไตรมาส 4/2565 ที่จะเป็นบวกได้”
ประเมินผลการดำเนินงานรวมของบริษัทจะฟื้นตัวแข็งแกร่ง โดยคาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OCC) ทั้งปี 2565 จะอยู่ระหว่าง 40-50% และรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) ทั้งปี 2565 จะอยู่ระหว่าง 1,700 – 1,900 บาท
@ธุรกิจอาหารยังกำไร
ขณะที่ธุรกิจอาหารยอดขายต่อสาขา (SSSG) ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาขยายตัวได้ประมาณ 10% แต่เมื่อเปิดภาคการศึกษายอดขายต่อสาขาเฉลี่ยเร่งตัวได้สูงกว่า 20%และรายได้เฉลี่ยยังคงขยายตัวได้ประมาณ 15% แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบในกลุ่มธุรกิจอาหารที่ทรงตัวระดับสูงต่อเนื่องตั้งแต่ปลายไตรมาส 4/2564 ที่ผ่านมา แต่กลุ่มธุรกิจอาหาร ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิต รวมถึงการดำเนินงานโดยภาพรวมได้อย่างมีศักยภาพ ควบคู่กับการปรับโปรโมชันให้สนับสนุนยอดขายต่อสาขาให้เติบโตได้เป็นอย่างดี
“เบื้องต้นธุรกิจอาหารมีต้นทุนค่าเช่าที่สูงขึ้น เพราะสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือของเจ้าของสถานที่แต่ละแห่ง แต่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญทำให้ต้นทุนดังกล่าวส่งผลต่อ EBITDA ไม่ถึง 1% และส่งผลต่อ Gross Profit Margin ไม่ถึง 3% ส่วนต้นทุนวัตถุดิบนั้นบริษัทสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รายได้รวมยังเร่งตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง ภาพรวมจึงยังค่อนข้างมั่นใจว่ารายได้-กำไรจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”
@อุตสาหกรรมฟื้นตัว
ธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย จัดทำผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม (Hotel Business Operator Sentiment Index : HSI) เดือนมิถุนายน 2565 ปรากฏว่า ผู้ประกอบการฯ มีความเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมโรงแรมจะสามารถทยอยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าอัตราการเข้าพักในช่วงไตรมาส 4/2565 จะมากกว่า 50% โดยเฉพาะโรงแรมขนาดใหญ่ ขณะที่อุปสรรคสำคัญในการดำเนินธุรกิจ คือ 1.ต้นทุนที่สูงขึ้น และ 2.การขาดแคลนแรงงาน