รีเซต

"เซียนมี่" ชี้ตลาดหุ้นไทยใกล้กลับตัว มีโอกาสฟื้นตัวแรง

"เซียนมี่" ชี้ตลาดหุ้นไทยใกล้กลับตัว มีโอกาสฟื้นตัวแรง
TNN ช่อง16
10 เมษายน 2568 ( 19:33 )
25

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นไทย นักลงทุนหลายคนอาจตั้งคำถามว่า ถึงเวลาต้อง “ตัดขาดทุน” (Cut Loss) แล้วหรือยังนั้น นายทิวา ชินธาดาพงศ์ หรือ "เซียนมี่๋๋๋๋" นายกสมาคมนักลงทุนประเทศไทย และหนึ่งในนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) ได้กล่าวในงาน Definit by Finnomena  สัมมนาพิเศษ “ยังควรสู้อยู่ในหุ้นไทย หรือไปลงหุ้นนอกหลังจากนี้" ว่า ตลาดหุ้นไทยใกล้แตะจุดต่ำสุดและมีโอกาสฟื้นตัวแรง แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความผันผวนนี้ไปให้ได้ คาดหุ้นไทยใกล้กลับตัว แต่อนาคตยังไม่แน่นอน


โดยมองการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา อาจเกิดจากปัจจัยที่หลายคนมองข้าม เช่น ประเด็นทางการเมือง ซึ่งนักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญ หากสถานการณ์นี้คลี่คลายอาจเป็นแรงส่งให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวยังมีความไม่แน่นอน ดังนั้น นักลงทุนควรมีสัดส่วนการลงทุนที่สมดุลระหว่างหุ้นไทยและต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง ซึ่งส่วนตัวแล้วเซียนมี่จัดสรรพอร์ตด้วยการลงทุนระหว่างหุ้นไทยและหุ้นจีนในสัดส่วน 50/50 ซึ่งช่วยให้สามารถรับมือกับความผันผวนของแต่ละตลาด และยังมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการเติบโตของทั้ง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนที่ดีสำคัญกว่าการตัดสินใจด้วยอารมณ์ เมื่อถูกถามถึงการ “ตัดขาดทุน” เซียนมี่ ให้คำแนะนำว่า ก่อนจะขายหุ้นไทย นักลงทุนควรหา “ตัวเลือกที่ดีกว่า” ให้เจอก่อน เพราะการขายหุ้นด้วยอารมณ์เพียงอย่างเดียวไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดี หากไม่มีแผนรองรับว่าเงินที่ได้จากการตัดขาดทุนจะนำไปลงทุนอะไรต่อ เงินดังกล่าวอาจไม่ถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และถ้าไม่รู้ว่าขายไปแล้วจะเอาเงินไปทำอะไรต่อ ผมแนะนำว่าอย่าเพิ่งขาย นอกจากนี้ การนำเงินปันผลจากหุ้นไทยไปลงทุนในต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยเปิดโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ พร้อมทั้งกระจายความเสี่ยงไปในตัว 


เซียนมี่ มองเคล็ดลับเลือกหุ้นรับมือโลกอนาคตว่า โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AI หรือแนวโน้มเศรษฐกิจที่ผันผวน มองว่าประเทศที่เคยถูกมองว่ามีอนาคต อาจไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป ในขณะที่บางประเทศที่เคยถูกมองข้าม อาจกลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตในอนาคตได้ โดยหนึ่งในวิธีการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง คือ การเลือกลงทุนในหุ้นที่สามารถ “เติบโตได้แม้ว่าจำนวนประชากรจะลดลง” เพื่อรับมือกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโลกในระยะยาว รวมถึงมองหาบริษัทที่มีศักยภาพระดับโลก (Global Company) และมีผู้บริหารที่ “ลงเรือลำเดียว” กับนักลงทุน


ดังนั้น นักลงทุนควรสร้างพอร์ตเพื่อโอกาสเติบโตระยะยาว โดยกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม และเลือกหุ้นที่มีความสามารถในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว ส่วนตลาดหุ้นไทยนั้นอาจมีเสน่ห์ลดน้อยลงสำหรับบางคน แต่เซียนมี่เชื่อว่า หากนักลงทุนมีกลยุทธ์ที่ดี ยังมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เสมอ

ด้าน นายวศิน ปริธัญ, CFA, Managing Director ของ Definit Investment Advisory Securities (“Definit”) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือฟินโนมีนา (“Finnomena”) กล่าวว่า กลยุทธ์สู่โอกาสในหุ้นไทยปัจจุบันนั้น แม้หุ้นไทยในเชิงดัชนีอาจจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่หากมองในระดับรายตัวจะพบว่ามีหุ้นที่สามารถทำกำไรได้ทุกเดือนมากถึง 200 - 300 ตัว ถ้าเลือกหุ้นถูกก็สามารถทำกำไรได้ ดังนั้น จึงไม่ควรขายหุ้นออกไปโดยไม่มีแผน เพราะอาจพลาดโอกาสที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้


เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสมในสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน “Definit” ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุน "Definit SET Select" และบริการ "Stock Health Check" ตรวจสุขภาพพอร์ตหุ้นไทยด้วย DSS Rating ซึ่งใช้กระบวนการคัดเลือกหุ้นโดยอ้างอิงจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

1. Earnings – การปรับประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์

2. Valuation – การประเมินมูลค่าความถูกแพงของหุ้นเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม

3. Technical – แนวโน้มของราคาหุ้นในระยะสั้น


ทั้งนี้ Definit SET Select ออกแบบให้สามารถปรับพอร์ตได้ทุกเดือน โดยหุ้นในพอร์ตจะมีระยะเวลาถือเฉลี่ย 1-3 เดือน และจะมีการปรับพอร์ตเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในตลาด ภายใต้เงื่อนไขดั หุ้นที่อยู่ในพอร์ตไม่เกิน 20 ตัว, แต่ละหุ้นจะไม่เกิน 10% ของพอร์ต ,หากไม่มีหุ้นที่ตรงตามเกณฑ์ จะถือเงินสดแทน และด้วยแนวทางการลงทุนที่มีวินัยและยืดหยุ่นตามสภาวะตลาด Definit SET Select จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม