PRI ขยายฐานโค้งท้าย ธุรกิจปลายน้ำทำนิวไฮ
#PRI #ทันหุ้น - PRI ไตรมาส 4/2566 เดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ต่อเนื่อง มุ่งสร้างการเติบโตยั่งยืนโชว์ผลงาน 9 เดือนแรกปี 2566 กวาดรายได้ 1,346 ล้านเติบโต 122% ทะลุเป้าหมายทั้งปี โกยกำไรสุทธิรวม 281 ล้านบาท เติบโต 79% ธุรกิจปลายน้ำ อาทิ ธุรกิจตกแต่งภายใน และติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ขึ้นแท่นธุรกิจ New High
นายพิเชษฐ พินิจพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส
โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้นำธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ สมัยใหม่แบบครบวงจร กล่าวว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.2566) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,346 ล้านบาท เติบโตขึ้น 122% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และเป็นรายได้ ที่เกินกว่าเป้ารายได้ ของทั้งปีที่ตั้งเอาไว้ 1,300 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม อยู่ที่ 281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี 2565 ธุรกิจปลายน้ำ อาทิ ธุรกิจตกแต่งภายใน และติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ขึ้นแท่นธุรกิจ New High
โดยในไตรมาส 3/2566 (ก.ค.-ก.ย.2566) นับเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญ ที่ช่วยผลักดันให้บริษัทได้มีการเติบโตทะลุเป้าหมาย เนื่องจากมีรายได้ 504 ล้านบาท เติบโต 114 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และมีกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท เติบโต 70% จากช่วงเดียวกันของปี 2565
“ที่ผ่านมา เราสร้างรากฐานการเติบโต ด้วยการขยายฐานลูกค้ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ ไปจนถึงการขยายธุรกิจใหม่ๆ New Business อย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านการร่วมทุน และเข้าซื้อกิจการ เพื่อให้ธุรกิจในภาพรวมของเรา มีความครบวงจร เป็น Super Living Service ที่จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วน อย่างสมบูรณ์ ซึ่ง ณ วันนี้รากฐานที่เราสร้างไว้อย่างแข็งแกร่ง ได้ให้ส่งผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ออกมาเป็นผลประกอบการ ที่ทะลุเป้าหมายรวมของทั้งปี ตั้งแต่ช่วง 9 เดือนแรก” นายพิเชษฐ กล่าว
ลุยขยายฐานโค้งท้าย
นายพิเชษฐ กล่าวว่าสำหรับในไตรมาส 4/2566 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้า ทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สู่กลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อาทิ บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด หรือ UPM เดินหน้าเข้าประมูลงานบริหารจัดการงานก่อสร้างโครงการภาครัฐ และงานห้างสรรพสินค้า บริษัท อูโน เซอร์วิส จำกัด หรือ UNO เดินหน้าเจาะตลาดงานด้านโรงแรม โดยนำเสนองานด้านแม่บ้านทำความสะอาด และ Property Management จากเดิมที่ส่วนใหญ่ฐานลูกค้าอยู่ในกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย
ขณะเดียวกัน ยังคงเดินหน้าขยายอาณาจักร Super Living Service ต่อเนื่อง ผ่านการพิจารณาร่วมทุน (Joint Venture) กับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้น ตลอดจนการพิจารณาเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพื่อขยายขอบเขตธุรกิจบริการใหม่ๆ ให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ทั้งนี้ จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสเสริมแกร่งผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/2566 และส่งผลให้ผลการดำเนินงานทะลุเป้าหมายได้ไกลกว่าเดิม