รีเซต

กรมป่าไม้ แจ้งตำรวจเอาผิด"เหมืองทองอัครา"บุกรุกผืนป่า

กรมป่าไม้ แจ้งตำรวจเอาผิด"เหมืองทองอัครา"บุกรุกผืนป่า
TNN ช่อง16
15 ตุลาคม 2563 ( 17:12 )
191
กรมป่าไม้ แจ้งตำรวจเอาผิด"เหมืองทองอัครา"บุกรุกผืนป่า

วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส.พร้อม พ.ต.อ.กฤษณะ สุขสมบูรณ์ รอง ผบก.ปทส.,พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอฃ ผบก.ปทส.,นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ(พยัคฆไพร) และ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.ร่วมแถลงการขยายผลตรวจสอบเหมืองทองบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ใน จ.พิจิตร และ จ.เพชรบูรณ์ พบการบุกรุกพื้นที่ครอบครองการทำประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต และทำลายสาธารณประโยชน์ของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน รวมทั้งหมด 15 แปลง เนื้อที่กว่า 73 ไร่


พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เคยรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีบริษัท อัครารี ซอร์สเซส และผู้เกี่ยวข้อง ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ทางหลวง พร้อมส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ทำการตรวจสอบการอนุญาตให้ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส เปลี่ยนแปลงผังโครงการเหมืองแร่โดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน ซึ่งมีการชี้มูลไปแล้วเมื่อปี 2559 แต่ 15 คดีใหม่ในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับคดีเดิม ฉะนั้น บก.ปทส.จะเสนอกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งคณะทำงานสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งการดำเนินคดีเป็นไปตามพยานหลักฐานที่กรมป่าไม้ได้รวบรวมหลักฐานซึ่งพิสูจน์ความผิดจริง เนื่องจากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนและมาแจ้งความไว้ก่อนแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องดูว่าเหมืองแร่จะมีข้อโต้แย้งใดอีกบ้าง ซึ่งตำรวจก็พร้อมให้มาชี้แจง ยืนยันไม่มีผลกับการพิจารณาคดีตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการกับรัฐบาลไทย


นายอดิศร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบประกอบการรวบรวมพยานหลักฐานได้พบการกระทำผิดเกี่ยวกับที่ดินของบริษัทฯ รวมพื้นที่ 15 แปลงใน 3 จังหวัด แบ่งเป็นการแปลงประทานบัตรใน อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร บุกรุกผืนป่ารวม 35 ไร่, แปลงประทานบัตรใน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ 16 ไร่,บ่อกักโลหะกรรมที่ 1 พื้นที่บ้านวังทรายพูนใน บุกรุกป่า 4 ไร่ บ่อกักโลหะกรรมที่ 2 พื้นที่เดียวกัน บุกรุกป่า 3 ไร่ เป็นการกระทำผิด 3 ประการ คือ 1.ทำลายถนน,ทางสาธารณะที่ไม่ได้ขอใช้ประโยชน์กับกรมป่าไม้ 2.ทำเหมืองแร่ออกนอกพื้นที่ได้รับอนุญาต 3.นำพื้นที่ที่อนุญาตใช้ประโยชน์ไปออกเอกสารสิทธิ์ จึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับ บก.ปทส.ทั้งนี้ ขอยืนยันว่านี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรือเป็นการนำไปต่อสู้คดีความที่มีการฟ้องร้องกันระหว่างบริษัทแม่กับรัฐบาลไทย


นายชีวะภาพ กล่าวชี้แจงโดยให้ย้อนไปดูคำสั่ง คสช.เมื่อปี 2559 ซึ่งระบุให้เหมืองหยุดกิจการเพื่อปรับปรุงข้อผิดพลาดจากเรื่องสิ่งแวดล้อม สาธารณสุขและชีวอนามัย ไม่ใช่สั่งปิดกิจการ ซึ่งนับตั้งแต่ปี2560 ได้ประสานการปฏิบัติภารกิจหลายหน่วย พบการขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้โดยไม่ถูกต้อง ประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันได้ว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย



เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง