รีเซต

2 โจรแสบ ขี่ซาเล้ง ลอบตัดสายสัญญาณ ขายทองแดง อ้างครั้งแรก แต่พบประวัติทำผิดซ้ำ

2 โจรแสบ ขี่ซาเล้ง ลอบตัดสายสัญญาณ ขายทองแดง อ้างครั้งแรก แต่พบประวัติทำผิดซ้ำ
มติชน
22 มิถุนายน 2564 ( 17:54 )
53
2 โจรแสบ ขี่ซาเล้ง ลอบตัดสายสัญญาณ ขายทองแดง อ้างครั้งแรก แต่พบประวัติทำผิดซ้ำ

2 โจรแสบ ขี่ซาเล้ง ลอบตัดสายสัญญาณ เอาทองแดงไปขาย บอกทำครั้งแรก แต่ตร.พบเคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง

 

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 มิถุนายน ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายเอกชัย สาริยะ อายุ 31 ปี ชาวบ้าน บ.หนองนาคำ ม.3 ต.ภูเขาทอง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด และนาย เดชณรงค์ เกตเสนา อายุ 20 ปี ชาว บ้านหนองใหญ่ หมู่ 6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมของกลาง สายส่งสัญญาณสื่อสาร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 นิ้ว ยาวประมาณ 9 เมตร ,สายส่งสัญญาณสื่อสารแบบปลอกฉนวนออกแล้ว น้ำหนักรวม 20 กิโลกรัม ,กรรไกร ,คีมตัดสายไฟ, มีดอีโต้ ,ถุงกระสอบปุ๋ยขนาด 50×100 ซม.,รถจัรกยานยนต์พ่วงข้างยี่ฮ้อฮอนด้า เวฟ สี ดำ-แดง หมายเลขทะเบียน คจต -38 ขอนแก่น และอุปกรณ์ในการก่อเหตุรวมหลายรายการ

 

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเป็นชาย 2 คนกำลังลักลอบตัดสายไฟอยู่ที่ริมถนนโพธิสาร หน้าวัดโพธิ์ บ้านโนนทัน เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังรับแจ้งทางจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบสายส่งสัญญาณ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 นิ้วถูกตัดขาดเป็น 2 ท่อน ยาวประมาณ 9 เมตร ห้อยลงมาข้างทาง แต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ จึงได้สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าวทราบว่า คนร้ายทั้ง 2 คนขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีไป โดยมุ่งหน้าไปทางวัดศรีสว่างโนนทัน

 

 

 

“เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันติดตามจับกุมตัวคนร้าย กระทั่งขับรถไล่ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีบนถนนฉิมพลี ถนนเส้นทางหลังหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง โดยพบชายต้องสงสัยยืนอยู่ริมถนน และมีรถจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดซุกซ่อนอยู่ในโพงหญ้าใกล้กัน พร้อมกับพบชายอีกคนนั่งหลบอยู่ข้างรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จึงขอตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว จำนวนมากจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมือง ขอนแก่น โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุตัดสายสัญญาณจริงและทำเป็นครั้งแรก โดยนำทองแดงไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า กิโลกรัมละ 200 บาท ครั้งนี้ได้ไปทั้งหมดประมาณ 20,000 บาท”

 

พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติพบว่า นายเดชณรงค์เคยถูกดำเนินคดีลักสายสัญญาณสื่อสารมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้กลับออกมาก่อเหตุอีกครั้ง อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ก่อนทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง