"หอการค้าไทย"หนุนคลัง-ธปท.รับมือ"ทรัมป์"

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย เปิดเผยถึงกระทรวงการคลัง เชิญธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หารือเรื่องผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต่อเศรษฐกิจไทยว่า การหารือดังกล่าว เป็นเรื่องที่ดีที่คลังกับ ธปท.มีการหารือกันเป็นประจำ และจำเป็นต้องมีการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด
นายวิศิษฐ์กล่าวว่า จากสถานการณ์ในขณะนี้เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว ต่างจากช่วงปกติ ดังนั้นควรจะต้องมีการหารือกันถี่กว่าเดิม และบริหารให้นโยบายการคลังกับการเงินสอดคล้องกัน ไม่ใช่แค่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย แต่ยังเป็นการรองรับความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นภาษี หรือกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ของโลกที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ส่วนกรณีข้อเสนอให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยนโยบายไทย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น มองว่าเรื่องดอกเบี้ยนั้นยังมีเวลาเตรียมการ เพราะนโยบายเศรษฐกิจ
และนโยบายขึ้นภาษีของสหรัฐก็ยังไม่นิ่ง แต่ถ้านโยบายของสหรัฐมีผลกระทบต่อไทยทวีความรุนแรงขึ้นนั้น การลดดอกเบี้ยนโยบายก็จะเป็นช่องทางช่วยพยุงเศรษฐกิจในประเทศไต้
ขณะที่สิ่งที่ประเทศไทยทำได้คือ การติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหาวิธีปรับตัว พร้อมรับมือ โดยระหว่างการรอเจรจานั้น เชื่อว่ามีความยืดเยื้อพอสมควร ประเทศไทยควรต้องเตรียมการในช่วงระหว่างการรอผลนี้ 2 ด้าน
ได้แก่ ด้านแรก การเตรียมพร้อมในเรื่องการแข่งขันกับประเทศที่ส่งออกสินค้าไปสหรัฐใกล้เคียงกันกับไทย และเตรียมพร้อมสินค้าที่เข้ามาในประเทศมากขึ้น จากการที่ส่งออกไปสหรัฐไม่ได้
ส่วนด้านที่สอง ต้องเตรียมรับมือกับคำสั่งซื้อที่อาจจะเพิ่มขึ้นสูงในช่วง 90 วัน ที่เลื่อนการบังคับใช้ภาษี
โดยกลุ่มสินค้าที่จะได้ผลกระทบจากนโยบายครั้งนี้มากที่สุด คือ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์, รองลงมาคือ กลุ่มรถยนต์ และส่วนประกอบรวมทั้งเหล็ก เหล็กกล้าและอะลูมิเนียม ที่สหรัฐอเมริกาประกาศบังคับใช้นโยบายขึ้นภาษีนำเข้าศุลกากรร้อยละ 25 ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา