เช็กประวัติ ครูพี่เลี้ยงติดโควิด มีอาการป่วยหลังฉีดวัคซีน!
วันนี้( 23 เม.ย.64) หลังจาก นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบและสั่งการให้ตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น โดยใช้อาคารของโรงเรียนอนุบาลดทศบาลตำบลแม่คือเป็นกรณีพิเศษ รองรับกลุ่มเด็กเล็กและครู เพื่อช่วยลดปัญหาการเคลื่อนย้ายไปรวมกับผู้ใหญ่ในโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ โดยให้โรงพยาบาลดอยสะเก็ดส่งแพทย์และพยาบาลเข้ามาดูแล
สำหรับคัสเตอร์ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลแม่คือ ที่ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้ ต้นต่อเกิดจากครูเพียงเลี้ยงอายุ 46 ปี โดยประวัติของครูพี่เลี้ยงรายนี้ ได้เข้ารับการฉีควัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 8 เมษายน จากนั้นมีอาการป่วยจึงเดินทางไปยังโรงพยาบาลดอยสะเก็ด ในวันที่ 9 เมษายน ซึ่งแพทย์ได้รับตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 16 เมษายน ทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงมีการประสานงานมายังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลแม่คือทราบ
จากนั้นในวันที่ 20 เมษายน จึงประสานรถชีวนิรภัยพระราชทาน มาตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสใกล้ชิด ทั้งเพื่อนครูในโรงเรียนอนุบาลแม่คือเทศบาลตำบลแม่คือและครูพี่เลี้ยง รวมทั้งเด็กเล็กจำนวน 51 ราย พร้อมประสานผู้ปกครองของเด็กเล็กอีก 3 ราย ที่ย้ายภูมิลำเนาไปที่อื่น ให้ไปตรวจหาเชื้อโควิด -19 ด้วย โดยผลการตรวจพบครูพี่เลี้ยงติดเชื้อ 3 ราย และเด็ก 51 ราย
โดยช่วงบ่ายวันนี้จะเริ่มทยอยรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นเด็กเล็กอายุ 2 -4 ปี จำนวน 16 รายและครูพี่เลี้ยง 3 รายเข้ารักษาตัวก่อน และหากผลตรวจของผู้ปกครองพบว่าติดเชื้อก็จะรับผู้ปกครองเด็กเข้ารักษาตัวด้วยเพื่อดูแลบุตรหลาน แต่จะรับผู้ปกครองได้เพียง 1 คนต่อเด็ก 1 คนเท่านั้น สำหรับกลุ่มเสี่ยงในครัสเตอร์ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลแม่คือ มีประมาณ 120 ราย
ด้าน อสม. จากพื้นที่ในตำบลแม่คือ ที่ถูกเรียกตัวมาช่วยปรับพื้นที่ ระบุว่า ไม่รู้สึกกลัวหรือกังวลเพราะการแพร่ระบาดเกิดเฉพาะพื้นที่ และได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้ทราบข้อมูลว่า หากไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ หรือเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงก็ไม่ต้องกังวล ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจดีและไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด
สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลแม่คือ แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้กับเทศบาลตำบลแม่คือ และโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลแม่คือ ทำให้ทั้งเทศบาลฯ และโรงเรียนติดปิดทำการไปด้วย