ทรัมป์เดินหน้าขึ้นภาษีทองแดง 50% มีผล 1 ส.ค. ครอบคลุมอุตสาหกรรมสำคัญ

ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีทองแดง 50% มีผลต้นเดือนหน้า
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเดินหน้าขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าทองแดงในอัตรา 50% โดยจะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมชี้ว่าทองแดงเป็นวัตถุดิบสำคัญต่อการผลิตระบบยุทธศาสตร์หลากหลายด้าน ทั้งการทหารและเทคโนโลยีขั้นสูง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทำเนียบขาวได้ออกคำสั่งให้มีการสอบสวนการนำเข้าทองแดงภายใต้มาตรา 232 ของกฎหมายการขยายอำนาจการค้า ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ให้อำนาจแก่ประธานาธิบดีในการขึ้นภาษีสินค้าเพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ
ครอบคลุมสินค้ากึ่งสำเร็จรูป-ภาคยุทธศาสตร์
รายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุโดยอ้างแหล่งข่าวว่า แผนภาษีทองแดงของทรัมป์ไม่ได้จำกัดเฉพาะวัตถุดิบดิบ แต่ยังรวมถึง “สินค้ากึ่งสำเร็จรูป” ที่ผลิตจากทองแดง ซึ่งมีการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานหลัก เช่น ระบบไฟฟ้า กองทัพ สถานีฐานศูนย์ข้อมูล และการผลิตอาวุธไฮเทค
ทรัมป์ระบุในข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ว่า “ทองแดงเป็นโลหะที่จำเป็นต่อเซมิคอนดักเตอร์ เครื่องบิน เรือ ยุทธภัณฑ์ ศูนย์ข้อมูล แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ระบบเรดาร์ ระบบป้องกันขีปนาวุธ และแม้แต่อาวุธความเร็วเหนือเสียง ซึ่งสหรัฐฯ กำลังผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล”
แรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทาน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การเก็บภาษีทองแดงในระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานระดับโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศผู้ผลิตทองแดงและผู้ส่งออกสินค้ากึ่งสำเร็จรูปมายังสหรัฐฯ เช่น ชิลี เม็กซิโก และจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้ทางการค้าในระยะถัดไป
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ยังสอดรับกับแนวทาง “America First” ที่มุ่งลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างชาติ และผลักดันการผลิตภายในประเทศโดยอ้างความจำเป็นด้านยุทธศาสตร์และความมั่นคง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
