ปูตินขู่ใครแทรกแซงเจอโต้กลับ ไบเดนประกาศคว่ำบาตรชุดใหม่
รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีเต็มรูปแบบต่อยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีการโจมตีทั้งทางอากาศต่อเมืองและฐานที่มั่นทางการทหาร รวมถึงส่งทหารและรถถังเข้าไปยังพื้นที่ทั้ง 3 ด้านของยูเครนพร้อมกันคือด้านเหนือ ใต้ และตะวันออก ซึ่งอาจกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์ด้านความมั่นคงของโลกครั้งใหม่ในยุคหลังสงครามเย็น
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียไม่สนใจคำประณามจากทั่วโลก รวมถึงการประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย ขณะที่เขาได้สั่งการให้มีการปฎิบัติการทำสงครามภาคพื้นดินครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ปูตินยังพูดถึงอาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซีย และขู่ว่าประเทศใดก็ตามที่พยายามเข้ามาแทรกแซง จะต้องได้รับผลกระทบชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไม่ควรมีใครมีข้อสงสัยว่าการโจมตีรัสเซียจะนำไปสู่การทำลายล้างและผลกระทบอันสยดสยอง ที่จะเกิดขึ้นกับใครก็ตามที่เข้ามารุกราน”ปูตินกล่าว และยังอ้างว่าการกระทำของเขาเป็นเรื่องชอบธรรม เพราะมีความจำเป็นต้องปกป้องพลเรือนในยูเครนตะวันออก
ผู้นำรัสเซียกล่าวหาสหรัฐและพันธมิตรว่าเพิกเฉยต่อความต้องการของรัสเซียในการป้องกันยูเครนไม่ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต รวมถึงการให้การรับประกันทางด้านความมั่นคงต่อรัสเซีย โดยระบุว่าด้วยเหตุผลทั้งหมดทำให้มาตรการทางทหารเป็นความจำเป็นที่ถูกบังคับให้เกิดขึ้น
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ทวีตว่า รัสเซียได้เดินไปบนเส้นทางของปีศาจ แต่ยูเครนจะปกป้องตนเองและไม่ยอมแพ้ที่จะยึดมั่นในเสรีภาพ
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย พร้อมทั้งระบุว่าปูตินได้เลือกที่จะทำสงครามครั้งนี้ และรัสเซียต้องรับผลกระทบที่จะตามมา ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็จะมีการประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียเช่นกัน
ไบเดนกล่าวว่าเขาไม่มีแผนที่จะพูดคุยกับปูติน ขณะที่มีรายงานว่าปูตินได้พูดคุยอย่างจริงจังและตรงไปตรงมากับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส