รีเซต

กลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ มธ. ร้อง กมธ. ยกเลิกภาษีผ้าอนามัย ชี้กดทับเพศหญิง

กลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ มธ. ร้อง กมธ. ยกเลิกภาษีผ้าอนามัย ชี้กดทับเพศหญิง
ข่าวสด
24 มีนาคม 2564 ( 23:57 )
121
กลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ มธ. ร้อง กมธ. ยกเลิกภาษีผ้าอนามัย ชี้กดทับเพศหญิง

กลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ มธ. ร้อง กมธ.กิจการเด็กฯ ยกเลิกภาษีผ้าอนามัย ชี้สร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างเพศ เพราะเพศชายไม่ต้องเสีย

 

 

 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 มี.ค. ที่รัฐสภา กลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำโดยนายปภาณษิณ ปิ่นแก้ว ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ผ่านนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกมธ. เพื่อขอให้มีการพิจารณายกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่มของผ้าอนามัย

 

 

โดย นายปภาณษิต กล่าวว่า ผ้าอนามัยเป็นสินค้าควบคุม แต่ผ้าอนามัยที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ตนมองว่าไม่เป็นธรรม หากผู้หญิงเป็นประจำเดือนจำเป็นต้องใช้ และเลือกที่จะไม่ใช้ไม่ได้ การเสียภาษีในส่วนนี้จึงเป็นการเสียภาษีประเภทเลือกเสียภาษีแบบทางเพศ ซึ่งเสียเฉพาะเพศหญิงเพศเดียว ส่วนเพศชายไม่จำเป็นต้องเสีย จึงเกิดเป็นความเหลื่อมล้ำขึ้นมา

 

 

นายปภาณษิต กล่าวอีกว่า ในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักรก็เพิ่งยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่มผ้าอนามัยไปเมื่อต้นปี การเสียภาษีผ้าอนามัยจึงเป็นเหมือนการเสียภาษีเพียงแค่เกิดมาเป็นผู้หญิงจึงต้องจ่าย เมื่อนำการเสียภาษีผ้าอนามัยมาคำนวนเป็นเงิน หากตีตามอายุเฉลี่ย 70 ปี จะตกอยู่ที่ 10,000-20,000 บาท ซึ่งค่อนข้างเยอะ และไม่สอดคล้องกับสิ่งที่รัฐควรดูแลเกี่ยวกับสุขภาพของเพศหญิง ตนมองว่าในสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจโควิด-19 การเก็บภาษีเหมือนเป็นการกดทับเพศหญิงลงไป หากยกเลิกภาษีผ้าอนามัยสภาพความเป็นอยู่ของเพศหญิงต้องดีขึ้นแน่นอน

 

 

นายปภาณษิต กล่าวต่อว่า ตนมีข้อเรียกร้องต่อกมธ. คือ ขอให้ยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าประเภทผ้าอนามัย ทั้งแบบธรรมดา แบบสอด หรือแบบผ้าอ้อม และต้องมีการจัดหา หรือแจกผ้าอนามัยในสถานศึกษาในระดับโรงเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เนื่องจากเป็นวัยที่ยังไม่มีรายได้ ฉะนั้นรัฐบาลจึงต้องดูแลเยาวชนตรงนี้ด้วย ที่สำคัญคือการเพิ่มความเท่าเทียมทางเพศอยู่ในกฎข้อที่ 5 ของเอสดีจีที่ออกโดยสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ

 

 

ด้าน นายธัญวัจน์ กล่าวว่า กมธ.ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น มีหลายองค์กรของผู้หญิงทั่วโลกได้พูดถึงความไม่เป็นธรรมของค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีผ้าอนามัย ซึ่งเป็นความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้หญิง ย่างไรก็ตามกมธ.จะนำข้อเสนอของกลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศเข้าสู่การพิจารณาอย่างรอบด้านตามกรอบอำนาจของหน้าที่

 

 

เมื่อถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรเมื่อสังคมมองว่าเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล นายธัญวัจน์ กล่าวว่า เรื่องผ้าอนามัยเป็นหนึ่งความเหลื่อมล้ำในร่มใหญ่ของคำว่าต้นทุนเพศ ทุกเพศมีต้นทุนของตนเองไม่ว่าจะเป็นต้นทุนร่างกายและต้นทุนเรื่องบทบาทที่สังคมมอบให้ ผู้หญิงมีต้นทุนเพศในเรื่องผ้าอนามัยเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้นทุนเรื่องบทบาททางเพศที่ต้องเป็นภรรยาและแม่ ซึ่งสังคมมองว่าเป็นหน้าที่แต่ความจริงแล้วเป็นงานที่ผู้หญิงต้องลาออกจากงานที่ทำแล้วได้เงินเพื่อมาทำงานที่ทำแล้วไม่ได้เงิน โดยรัฐไม่ได้รวมมูลค่าตรงนี้สู่จีดีพีด้วย นี่เป็นหนึ่งในเรื่องความเหลื่อมล้ำที่ทำให้อัตราการเกิดลดลง ฉะนั้นจึงต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องความเหลื่อมล้ำเรื่องต้นทุนเพศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง