รีเซต

Hybrid Working คือมาตรฐานการทำงานแบบใหม่ ในยุค Next Normal หรือไม่?

Hybrid Working คือมาตรฐานการทำงานแบบใหม่ ในยุค Next Normal หรือไม่?
Oopsoi5
16 มิถุนายน 2564 ( 10:05 )
671

ปัจจุบันรูปแบบการทำงานของพนักงานออฟฟิตได้เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากที่ต้องมีปฎิสัมพันธ์ระหว่างกันภายในออฟฟิศกลายเป็นการทำงานจากที่บ้าน (Work from home)  และแม้ว่าในตอนนี้จะมีวัคซีนป้องกันโควิดแล้วก็ตาม แต่การแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่ในหลายๆ ประเทศก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดลงง่ายๆ ทำให้บริษัททั่วโลกต่างพิจารณาหาแนวทางการทำงานรูปแบบใหม่ที่มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งสิ่งที่หลายบริษัทได้มองเห็นสอดคล้องกันก็คือ  รูปแบบการทำงานแบบผสมผสานหรือ Hybrid Working ซึ่งวันนี้ trueID จะพาไปรู้จักกับการทำงานแบบ Hybrid Working ว่าเป็นยังไง

 

 

Hybrid Working มีลักษณะอย่างไร

 

รูปแบบการทำงานแบบไฮบริดพนักงานจะได้รับอิสระในการทำงานมากกว่าการทำงานรูปแบบเดิม เช่น การเข้าออฟฟิศแค่ 3 วันต่อสัปดาห์อีก 2 วันที่เหลือสามารถทำงานจากที่บ้านหรือจากที่ไหนก็ได้ที่คิดว่าสามารถทำงานได้ดีที่สุด

 

หรือมีการกำหนดวันที่แน่นอนในการเข้าออฟฟิศเพื่อมาประชุม และมีวันที่พนักงานสามารถเลือกทำงานที่ไหนก็ได้หากงานนั้นสามารถทำได้เองเพียงคนเดียว โดยการจะเข้าออฟฟิศจะเน้นงานที่ต้องการการทำงานร่วมกันมากกว่า

 

 

ทำไมต้องเป็น “การทำงานแบบไฮบริด” และทำไมไม่ให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน 100% ไปเลย

 

การทำงานจากบ้านได้เรื่องความสะดวก ตอบโจทย์ทางรอดในยุควิกฤต และเป็นอนาคตที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่สิ่งที่การทำงานจากที่บ้านไม่สามารถสร้างได้คือ “ความคิดสร้างสรรค์” เพราะความคิดสร้างสรรค์เกิดจากปะทะกันทางความคิด มันคือความร่วมมือที่มนุษย์ยังจำเป็นต้องเจอกัน

 

นวัตกรรมหลายอย่างที่เกิดขึ้นในหลายบริษัทตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา หลายครั้งเกิดขึ้นเพราะความบังเอิญในออฟฟิศ บางครั้งเป็นบทสนทนา บางครั้งเป็นการพูดคุยกันโดยไม่ได้มีการเตรียมตัวมาก่อน

 

ดังนั้น การทำงานแบบไฮบริดจะเป็นทางออกทั้งหมดของเรื่องนี้ เพราะได้ทั้งความสะดวกในการทำงาน ตอบโจทย์ภาพของอนาคตการทำงาน และยังมีออฟฟิศเป็นทางเลือกในการผลิตงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์

 


บริษัทที่เริ่มใช้การทำงานแบบ  Hybrid Working

 

  • Microsoft บอกว่าหลังจากการระบาดของโควิด ความคาดหวังของพนักงานไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กว่า 80 % ของพนักงานระดับผู้จัดการมีความคาดหวังให้บริษัทมีนโบายการทำงานจากบ้าน และกว่า 70 % ของพนักงานให้การตอบรับนโยบายการทำงานแบบไฮบริด และที่ Microsoft พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้แล้วสูงสุด 50 %ของเวลาทั้งหมด

  • Google ให้เข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 3 วัน หรือจะเลือกทำงานจากที่ไหนก็ได้ 100% โดยไม่เข้าออฟฟิศอีกเลย

  • Twitter พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ตลอดไป

  • Dropbox ลดพื้นที่สำนักงานและเปลี่ยนพื้นที่ออฟฟิศให้เป็นห้องประชุมและ Co-working space

  • Uber ให้พนักงานเข้าออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ และจากการสอบถามพนักงาน 2 ใน 3 ต่างก็ชื่นชอบการทำงานแบบไฮบริด

  • Kissflow ผู้ให้บริการสถานที่ทำงานแบบดิจิทัลมีสำนักงานในสหรัฐอเมริกาและอินเดียก็ได้เลือกการทำงานแบบไฮบริดเช่นกัน

  • Barlow บริษัทกฎหมายในชิคาโก เลือกใช้การทำงานแบบไฮบริด เพราะในทางปฏิบัติยังมีไฟล์เอกสารหลายพันหน้าที่พนักงานยังต้องเข้าออฟฟิศเพื่อมาดูเอกสาร

 

จะเห็นได้ว่ารูปแบบการทำงานแบบไฮบริดได้รับความสนใจในวงกว้างจากบริษัทชั้นนำของโลก นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารองค์กรหลายคนสนับสนุนการทำงานแบบไฮบริด เช่น  Satya Nadella ซีอีโอของไมโครซอฟท์มองว่าการทำงานที่บ้านสามารถสร้าง Productivity ให้กับบริษัทได้มหาศาล

 

แต่มีด้านที่น่าเป็นห่วงทั้งการขาดการมีปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ความรู้สึกที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ รวมไปถึงภาวะ Burn out หรือปัญหาด้านสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นจากการ Work from home เป็นเวลานาน

 

ฉะนั้นการทำงานแบบไฮบริดจึงตอบโจทย์การทำงานในยุค Next Normal  ขณะที่ Sandeep Mathran ซีอีโอ WeWork กล่าวว่าคนที่อยากเข้าออฟฟิศเป็นคนที่มี Engagement กับองค์กรและงานในระดับสูง ดังนั้นคนที่ผูกพันกับงานจึงอยากเข้าออฟฟิศอย่างน้อย 2-3 วันต่อสัปดาห์  

 

 

ข้อมูล : SCB , BrandInside

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง