รีเซต

ไออาร์พีซี กางแผนลงทุน 5 ปี 3 หมื่นล้านบาท-ชี้ครึ่งหลังปีนี้ยังมีความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ไออาร์พีซี กางแผนลงทุน 5 ปี 3 หมื่นล้านบาท-ชี้ครึ่งหลังปีนี้ยังมีความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ข่าวสด
18 สิงหาคม 2564 ( 18:25 )
28
ไออาร์พีซี กางแผนลงทุน 5 ปี 3 หมื่นล้านบาท-ชี้ครึ่งหลังปีนี้ยังมีความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ข่าววันนี้ นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ในช่วงระยะ 5 ปี (2564-2568) บริษัทมีแผนเตรียมลงทุนวงเงิน 30,000 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นจะมีการพัฒนาโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลตามมาตรฐาน EURO V (Ultra Clean Fuel Project: UCF) วงเงินลงทุน 13,000-14,000 ล้านบาท เพื่อลดปัญหามลภาวะและฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) และสอดคล้องกับกลยุทธ์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของบริษัท

 

ในส่วนเงินลงทุนที่เหลือจะใช้สำหรับการร่วมทุนและเข้าซื้อกิจการใหม่ๆ (เอ็มแอนด์เอ) รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของกิจการเดิมที่อยู่ในความดูแล ตามวิสัยทัศน์ใหม่ของไออาร์พีซีในการเป็นองค์กรที่ “สร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงาน เพื่อชีวิตที่ลงตัว:To Shape Material and Energy Solutions in Harmony with Life” ที่จะเริ่มใช้ในปี 2564

 

นอกจากนี้ ยังใช้เงินในการซ่อมบำรุงทั่วไปตามแผนบริหารงานแต่ละปี ตั้งเป้าหมายจะสามารถผลักดันให้เป้าหมายกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เติบโตได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้โครงการขนาดเล็กที่วางแผนลงทุนไว้ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 จำเป็นต้องเลื่อนไปก่อน และทบทวนใหม่

 

นายชวลิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 บริษัทมีรายได้จากการขายสุทธิ 56,858 ล้านบาท เพิ่มขึ้นไตรมาสก่อน 18% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 87% เป็นผลจากราคาขายเพิ่มขึ้น 16% ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรก่อนหักภาษีฯ อยู่ที่ 8,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 491% ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 4,574 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 1,213% จากฐานของปีก่อนที่ติดลบ

 

“บริษัทประเมินทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยังมีความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังกดดันตลาด ส่งผลให้ไตรมาส 3 นี้สินค้าที่ต้องอาศัยการส่งออกไม่เติบโตอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องมาติดตามว่าบริษัทจะรักษาปริมาณการส่งออกไว้เท่าเดิมได้หรือไม่ ขณะที่ภาพรวมความต้องการใช้พลังงานในช่วงสิ้นปีนี้จะมีได้รับอานิสงส์จากการกักตุนน้ำมันดีเซลของฝั่งประเทศซีกโลกตะวันออก เพื่อใช้ผลิตความร้อน ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น”นายชวลิต กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง