ผู้ว่าฯ รัฐเท็กซัสวิจารณ์รัฐบาลกลาง ประเด็นผู้อพยพเด็ก

ฮิวสตัน, 18 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (17 มี.ค.) เกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับการจัดการผู้อพยพเด็กที่เดินทางมายังบริเวณชายแดนระหว่างรัฐเท็กซัสกับประเทศเม็กซิโก

"คณะบริหารของไบเดน (ประธานาธิบดี โจ ไบเดน) เปิดประตูรับเด็กทุกคนที่อยากข้ามชายแดนเข้ามา" แอบบอตต์กล่าวขณะยืนอยู่ตรงข้ามศูนย์การประชุมแดลลัสที่สำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง (FEMA) สั่งให้ปรับปรุงเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวของเด็กผู้อพยพ"จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผมรู้เลยว่าพวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือเลย" แอบบอตต์กล่าว พร้อมระบุว่าจำนวนเด็กไร้ผู้ปกครองที่เดินทางมายังชายแดนรัฐเท็กมากขึ้นนั้นเป็น "วิกฤตทางมนุษยธรรม" และเขาคาดว่าจำนวนผู้อพยพที่เดินทางมายังชายแดนจะเพิ่มขึ้นในระยะสั้น"จำนวนเด็กที่เดินทางข้ามชายแดนมาในตอนนี้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ของเด็กทั้งหมดที่จะเดินทางข้ามชายแดนมาในหลายเดือนข้างหน้านี้

เท็กซัสพร้อมยกระดับการดำเนินงานและช่วยรับมือ แต่เรื่องนี้เป็นภาระความรับผิดชอบของคณะบริหารไบเดน" แอบบอตต์กล่าวผู้ว่าการระบุว่ารัฐบาลของรัฐจะยกระดับความพยายามในการตรวจสอบและจับกุมกลุ่มค้ามนุษย์ที่ช่วยเหลือให้ผู้อพยพข้ามชายแดนอย่างผิดกฎหมายเดอะ เท็กซัส ทริบูน สื่อท้องถิ่นรายงานว่าในเดือนกุมภาพันธ์มีประชาชนถูกจับกุมหรือมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกรวมกว่า 100,000 ราย โดยราว 1 ใน 10 ของผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารนั้นเป็นผู้เยาว์ที่เดินทางมาโดยไม่มีผู้ปกครอง ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมถึงร้อยละ 62หนังสือพิมพ์ เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่าคณะบริหารไบเดนกักตัววัยรุ่นและเด็กกว่า 4,200 คนในห้องขังสำหรับผู้ใหญ่ ตามแนวชายแดน