ภารกิจวันที่ 2! ทภ.1 ลุยเก็บกู้ทุ่นระเบิดบ้านหนองหญ้าแก้ว

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ประจำวันที่ 11 ตุลาคม 2568

กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา จ.สระแก้ว ณ เวลา 15.00 น. พบว่าพื้นที่ยังคงมีความเคลื่อนไหวทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ บ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ

พื้นที่บ้านหนองจาน

ฝ่ายไทยมีมวลชนราว 200 คน ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าและสื่อมวลชน เข้าร่วมกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อปกป้องอธิปไตย นำโดย นายวีระ สมความคิด ที่ประกาศจุดยืนเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาถอนออกจากพื้นที่ โดยให้เวลาภาครัฐดำเนินการถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568 พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ ที่นำตู้คอนเทนเนอร์มอบให้เจ้าหน้าที่เพื่อใช้ในภารกิจทางยุทธการ

ด้านฝั่งกัมพูชาพบความเคลื่อนไหวของประชาชน สื่อมวลชน ทหาร และตำรวจราว 30–40 คน คอยติดตามการปฏิบัติของฝ่ายไทย สถานการณ์ทั่วไปยังเป็นปกติ โดยกองกำลังบูรพา ฉก.อรัญประเทศ และฉก.ตาพระยา ร่วมกับ ตชด. และทหารพราน ยังคงตรึงกำลังตามมาตรการ “จากเบาไปหาหนัก”

พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว

ฝ่ายไทยยังคงมีมวลชนบางส่วนในพื้นที่ โดยไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ขณะที่ฝั่งกัมพูชามีประชาชนและสื่อราว 150–200 คน รวมตัวใกล้รั้วลวดหนามในหมู่บ้านเปรยจัน มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และส่วนราชการคอยอำนวยความสะดวก และเชิญชวนนักข่าวใน–ต่างประเทศเข้าร่วมกิจกรรมที่มีลักษณะ “ปลุกระดมบิดเบือนข้อมูล” พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย

ด้านปฏิบัติการของฝ่ายไทย กองกำลังบูรพาได้จัด ชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด 7 ชุด พร้อมรถถากถางหุ้มเกราะ D5 ตรวจพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วอย่างละเอียด เพื่อให้เป็น “เขตปลอดภัย” คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3–4 วัน

คำสั่งแม่ทัพภาคที่ 1 เน้นปฏิบัติอย่างชอบธรรม

พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 (ศปก.ทภ.1) สั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อพื้นที่ที่มีการรุกล้ำอธิปไตยไทย โดยเน้นความสำเร็จทางยุทธวิธีควบคู่กับความปลอดภัยของประชาชน พร้อมดูแลสวัสดิการและครอบครัวของกำลังพลที่ได้รับผลกระทบ เช่น บุพการีเจ็บป่วยหรือประสบภัยพิบัติ เพื่อให้ทุกนายมีกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มศักยภาพ