รีเซต

สงครามหม้อไฟ “ตี๋น้อย vs MK” สมรภูมิเดือด “สุกี้” เมืองไทย

สงครามหม้อไฟ “ตี๋น้อย vs MK” สมรภูมิเดือด “สุกี้” เมืองไทย
TNN ช่อง16
10 มิถุนายน 2568 ( 12:42 )
150

ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของธุรกิจร้านอาหารในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารไหนรูปแบบไหน ผู้เล่นหน้าเก่าหน้าใหม่ ก็ล้วนแล้วแต่งัดกลยุทธ์การตลาดเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในภาวะที่เศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่

ธุรกิจร้าน "สุกี้หม้อไฟ" ก็มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเช่นเดียวกัน โดยเจ้าตลาดเดิมอย่าง "MK สุกี้" ที่ครองตลาดร้านสุกี้มาอย่างยาวนานด้วยเมนูที่หลากหลายครองใจลูกค้ามากมาย กำลังถูกท้าทายด้วยผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง "สุกี้ตี๋น้อย" ที่ใช้กลยุทธ์การตลาดด้วยบุฟเฟต์ราคาถูก แต่สินค้าคุณภาพดี แต่งร้านสวย การบริการไม่ต่างจากร้านสุกี้อะลาคาร์ท เจาะกลุ่มวัยรุ่นนอนดึก เปิดให้กใช้บริการกันได้ยาว ๆ จนถึงตี 5

ล่าสุด MK สุกี้ สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศโปรโมชั่น "สุกี้บุฟเฟต์" ในราคาเริ่มต้น 299 บาท นับเป็นการประกาศศึก "สงครามสุกี้หม้อไฟ" อย่างเต็มตัว แต่พียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น สุกี้ ตี๋น้อย ก็พร้อมตอบโต้ทันทีด้วยโปรโมชั่นบุฟเฟต์ราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 199 บาท แลกหมัดกันทันควัน

แล้วทั้ง MK และ ตี๋น้อย เป็นใครมาจากไหน มีศักยภาพในการแข่งขันอย่างไร ไปติดตามกัน

MK สุกี้ ดำเนินงานโดย บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ซึ่งมีคุณฤทธิ์ ธีระโกเมน เป็นผู้บริหาร เปิดร้านสาขาแรกเมื่อปี 2529 โดยในปัจจุบันมีทั้งหมด 448 สาขา ให้บริการสุกี้หม้อไฟ และเมนูที่หลากหลายเป็นจุดขาย เช่นหมูแดง เป็ดย่าง เป็นต้น ทั้งในรูปแบบบุฟเฟต์ และอะลาคาร์ท มีแบรนด์ในเครืออย่างยาโยอิ, แหลมเจริญซีฟู้ด มีรายได้ในปี 2567 อยู่ที่ 15,809 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,441 ล้านบาท

ขณะที่ สุกี้ตี๋น้อย ดำเนินงานโดย บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีคุณนัทธมน พิศาลกิจวนิช เป็นผู้บริหาร เปิดร้านสาขาแรกเมื่อปี 2561 โดยในปัจจุบันมีทั้งหมด 63 สาขา ให้บริการสุกี้หม้อไฟ และเมนูที่หลากหลายในรูปแบบบุฟเฟต์ ด้วยคุณภาพ และการบริการที่คุ้มราคา มีแบรนด์ในเครืออย่างข้าวแกงตี๋น้อยปันสุข, ตี๋น้อยป๊อปอัพคาเฟ่ มีรายได้ในปี 2567 อยู่ที่ 7,075 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,169 ล้านบาท

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง