"เศรษฐกิจสวิส" หดตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์หดตัวในไตรมาส 3 เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี สะท้อนผลกระทบจากอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เปิดเผยประมาณการเบื้องต้นว่า GDP ที่ปรับผลกระทบจากอีเวนต์กีฬาขนาดใหญ่แล้ว หดตัว 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ตรงข้ามกับไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 0.1% และแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของ Bloomberg คาดว่าจะลดลงเพียง 0.1%

สำนักงานเศรษฐกิจแห่งสหพันธรัฐ (SECO) ระบุว่า อุตสาหกรรมโดยรวมมีการเติบโตติดลบ จากการหดตัวรุนแรงของภาคเคมีและยา ขณะที่ภาคบริการเติบโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

นี่เป็นเพียงไตรมาสที่ 2 ที่สวิตเซอร์แลนด์เห็นเศรษฐกิจหดตัว นับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 และยังถือว่ามีผลงานดีกว่าประเทศยุโรปส่วนใหญ่ แต่ภาษีนำเข้าของสหรัฐที่ปรับขึ้นเป็น 39% ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมสร้างแรงกระแทกอย่างหนักต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยหลังจากสหรัฐประกาศลดภาษีลงเหลือ 15% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจึงมีความเป็นไปได้มากขึ้น

ดีลดังกล่าวช่วยบรรเทาภาระให้ผู้ผลิตสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น นาฬิกา เครื่องจักร และเครื่องมือความแม่นยำสูง รวมถึงผู้ผลิตอาหารและเคมีภัณฑ์ ซึ่งถูกกระทบหนักที่สุดจากภาษีระดับ 39% ขณะที่สินค้าส่งออกหลักอื่น ๆ เช่น ยาและทองคำ ยังคงได้รับการยกเว้นภายใต้กรอบภาษีของสหรัฐ

นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์หลังจากบรรลุข้อตกลง โดย Bloomberg Economics ระบุว่า ข้อตกลงนี้ช่วยลดผลกระทบต่อการส่งออกไปสหรัฐลงเกือบครึ่ง และช่วยให้สวิตเซอร์แลนด์ได้ข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันเหนือสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร เพราะอัตราภาษีเฉลี่ยที่สหรัฐเรียกเก็บจากสินค้าสวิสจะต่ำกว่าคู่แข่งเหล่านั้น