รีเซต

พายุสุริยะระดับ G2-G3 ทำให้เกิดแสงเหนือส่องสว่างเหนือ 18 รัฐ ในช่วงวันแรงงานของสหรัฐฯ

พายุสุริยะระดับ G2-G3 ทำให้เกิดแสงเหนือส่องสว่างเหนือ 18 รัฐ ในช่วงวันแรงงานของสหรัฐฯ
TNN ช่อง16
1 กันยายน 2568 ( 12:04 )
5

แสงเหนืออาจปรากฏให้เห็นในสหรัฐอเมริกาได้กว้างกว่าปกติ ระหว่างวันที่ 1-2 กันยายน โดยมีโอกาสสังเกตได้ใน 18 รัฐ ตั้งแต่ อะแลสกา ไปจนถึง อิลลินอยส์ สาเหตุมาจากพายุสุริยะที่กำลังก่อตัวและเคลื่อนเข้าสู่สนามแม่เหล็กโลกในช่วงวันแรงงาน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจำนวนมากมีโอกาสเฝ้ามองท้องฟ้าในช่วงวันหยุดแรงงานแห่งชาติสหรัฐฯ

ศูนย์พยากรณ์สภาพอากาศในอวกาศ (SWPC) ขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) เปิดเผยว่า การปลดปล่อยมวลโคโรนา (CME) จากการลุกจ้าระดับ M2.7 ของดวงอาทิตย์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ได้เคลื่อนที่ตรงมายังโลก โดยคาดว่าจะถึงในช่วงปลายวันที่ 1 ถึงต้นวันที่ 2 กันยายน เหตุการณ์นี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพายุแม่เหล็กโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แสงออโรรามองเห็นได้ในพื้นที่กว้างบริเวณซีกโลกเหนือ


พยากรณ์ปรากฏการณ์แสงเหนือในวันที่ 1 กันยายน โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเส้นแสดงปรากฏการณ์แสงเหนือจากศูนย์พยากรณ์สภาพอากาศในอวกาศของ NOAA (เครดิตภาพ: NOAA SWPC, กราฟิกที่สร้างใน Canva โดย Daisy Dobrijevic)

พายุแม่เหล็กโลกระดับ G2-G3

เมื่อ CME ชนเข้ากับสนามแม่เหล็กโลก NOAA คาดการณ์ว่าจะทำให้เกิดพายุแม่เหล็กโลกระดับ G2 (ระดับปานกลาง) ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ G3 (ระดับรุนแรง) การเปลี่ยนแปลงนี้มีความหมายสำคัญ เพราะทำให้แสงเหนือสามารถมองเห็นได้ไกลลงมาทางใต้มากกว่าปกติ ส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนในพื้นที่ตอนเหนือของสหรัฐฯ มีโอกาสได้ชมทัศนียภาพสวยงามบนท้องฟ้า

ดร. ทามิธา สคอฟ (Dr. Tamitha Skov) อธิบายว่า คราวนี้อาจไม่ใช่การปะทุของดวงอาทิตย์ (CME) แค่ครั้งเดียว แต่มีสองครั้งที่มุ่งหน้ามายังโลกพร้อมกัน โดยการปะทุที่รุนแรงกว่าจะวิ่งเร็วกว่าและแซงการปะทุที่อ่อนกว่า กลายเป็นเหมือนการกลืนกินกันของ CME ส่งผลให้โลกอาจเจอแรงกระแทกเล็ก ๆ ก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นตามด้วยพายุหลักที่รุนแรงกว่า ซึ่งทำให้ผลกระทบต่อสนามแม่เหล็กโลกยิ่งหนักขึ้น

ข้อมูลจากแบบจำลองของ NOAA และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร ระบุว่า แสงเหนืออาจขยายวงกว้างอย่างมีนัยสำคัญ และอาจมองเห็นได้ไกลถึงอังกฤษตอนกลาง หากท้องฟ้าเปิดโล่ง นอกจากนี้ ดัชนี Kp หรือ ค่าที่ใช้วัดความรุนแรงของพายุแม่เหล็กโลก ยังชี้ว่า พายุแม่เหล็กโลกจะรุนแรงสูงสุดถึง Kp 6.67 หรือเทียบได้กับพายุระดับ G3 ในช่วงเวลาระหว่าง 02:00-05:00 น. ของวันที่ 2 กันยายน

คืนวันจันทร์ถึงเช้าวันอังคาร 1-2 กันยายน จึงถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือ โดยคาดว่าในสหรัฐฯ จะมองเห็นได้ใน 18 รัฐ รวมถึง มอนทานา นอร์ทดาโคตา มินนิโซตา มิชิแกน เมน และอิลลินอยส์ อย่างไรก็ตาม แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้แน่นอน โอกาสในการมองเห็นขึ้นอยู่กับความมืดของท้องฟ้า มลภาวะแสง และมุมมองที่หันไปทางทิศเหนือ

วิธีชมแสงเหนือ

ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่า หากต้องการชมแสงเหนือ ควรมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่มืดและห่างไกลจากเมือง มองไปทางทิศเหนือระหว่างเที่ยงคืนถึงตีสอง และอดทนรอ เนื่องจากออโรรามักปรากฏเป็นระลอก นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศอวกาศ เช่น My Aurora Forecast & Alerts และ Space Weather Live ที่ช่วยคาดการณ์ตามตำแหน่งของผู้ใช้งานได้แบบเรียลไทม์

การพยากรณ์และผลกระทบ

ในด้านผลกระทบ NOAA เตือนว่า พายุแม่เหล็กโลกระดับ G3 แม้ไม่ใช่ระดับสูงสุด แต่ก็สามารถก่อความผิดปกติได้ เช่น การรบกวนสัญญาณวิทยุ ความผันผวนของระบบไฟฟ้า และความเสี่ยงต่อการทำงานของดาวเทียม แต่ในขณะเดียวกัน ปรากฏการณ์นี้ก็ถือเป็นโอกาสพิเศษสำหรับประชาชนทั่วไปที่จะได้เห็นความงดงามของแสงออโรราที่ปกติไม่ค่อยเกิดขึ้นในพื้นที่ละติจูดต่ำเช่นนี้

คาดว่า CME ที่เข้ามาจะมีผลกระทบประมาณวันที่ 1-2 กันยายน (เครดิตภาพ: NOAA)


NOAA จัดระดับพายุแม่เหล็กโลกตั้งแต่ G1 ถึง G5 โดย G3 ถือว่ารุนแรงในระดับกลาง สามารถผลักดันออโรรามาถึงละติจูดต่ำได้ และอาจสร้างผลกระทบต่อเทคโนโลยีบางระบบ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็เปิดโอกาสให้ประชาชนจำนวนมากได้สัมผัสความงดงามของแสงเหนือที่หาได้ยากในพื้นที่ตอนกลางของทวีปอเมริกาเหนือ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง