'สี จิ้นผิง' เตือน การเผชิญหน้าของมหาอำนาจ อาจส่งผลร้ายระดับหายนะ
สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เปิดเผยระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำบนเวที เวิลด์ อีโคโนมิกฟอรั่ม ที่จัดแบบประชุมทางไกลจากเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา เตือนว่าการเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจในเวที่โลกนั้นอาจส่งผลร้ายในระดับหายนะ
โดยสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประธานธิบดีสี เปิดด้วยการกล่าวแบบเดียวกับที่เคยระบุเอาไว้ในการประชุมเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา โดย สี ระบุว่าจีน เป็นชาติที่มีเรื่องราวความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดและเป็นเศรษฐกิจแห่งเดียวที่ยังคงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยัง ระบุว่าตนเป็นผู้พิทักษ์แนวคิดการทำงานแบบพหุพาคี และ ส่งสารที่เป็นคำเตือนหากความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจต้องถดถอยลงในอนาคต
“โลกของเราทุกวันนี้ห่างไกลจากคำว่าสงบสุข วาทกรรมที่กระตุ้นความเกลียดชังและอคติมีให้เห็นมากมาย ประวัติศาสตร์พิสูจน์ผ่านกาลเวลาและอีกครั้งการเผชิญหน้าไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่กลับจะทำให้เกิดผลร้ายระดับหายนะ” สี ระบุ
นอกจากนี้ สี ยังระบุถึงการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยว่า ห่วงโซอุปทานของโลกนั้นถูกขัดขวาง ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มสูง แหล่งพลังงานยังคงมีจำกัด พร้อมทั้งระบุว่า จีนพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนต่อประชาชนในความพยายามที่จะอำนวยความสะดวกให้เกิดการค้าข้ามชายแดน คงไว้ซึ่งห่วงโซ่อุปทานและทำให้เกิดความราบรื่นเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างมีเสถียรภาพและมั่นคง
ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาอยู่ในสถานะตึงเครียดจากประเด็นปัญหาเกี่ยวกับไต้หวัน โดยกรณีดังกล่าวถูกมองว่าเป็นความเสียงระดับสูงสุดสำหรับภูมิภาคเอเชียในปีนี้