สาวงง! เป็นหนี้กยศ.เกือบ 2 หมื่น ถูกยึดบ้านขายทอดตลาด 2 ล้าน

วันนี้( 25 มิ.ย.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กรทิพ อายุ 43 ปี , น.ส.สมหมาย อายุ 38 ปี , นายสมพร อายุ 75 ปี และนางพริ้ง อายุ 71 ปี  ชาวบ้าน หมู่.3 ต.สบสาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อได้รับจดหมายจากสำนักงานบังคับคดี จ.แพร่ มาติดหน้าบ้านว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกขายทอดตลาดไปแล้ว แค่เป็นหนี้ กยศ. จำนวน 17,000 กว่าบาท แต่กลับถูกฟ้องบังคับคดียึดบ้านไปขายทอดตลาดในราคา 2 ล้านกว่าบาท 

นางกรทิพย์ เล่าว่า เมื่อปี 2541 น.ส.สมหมาย น้องสาว ได้กู้ยืมเงินกองทุน กยศ. เป็นค่าเล่าเรียนและหลังจากเรียนจบก็ได้ทยอยส่งเงินคืนกองทุน กยศ. มาตลอด แต่ต่อมาได้ย้ายไปทำงานต่างจังหวัด จึงขาดส่งไประยะหนึ่ง แล้วยังเหลือยอดที่ค้างชำระ 17,000 กว่าบาท แต่ก็พยายามจ่ายล่าสุดเมื่อปี 2562 จ่ายกับธนาคาร 2,000 บาท จนกระทั่งมีหนังสือมาติดหน้าบ้านว่าเป็นทรัพย์สินถูกขายทอดตลาดแล้ว ซึ่งขณะนั้นทำงานอยู่ต่างจังหวัด พ่อ แม่ และลุงที่อยู่บ้านไม่รุ้หนังสือ จึงถ่ายรูปส่งไปให้ดูพอเห็นก็รีบกลับบ้านมาจนรู้ว่าบ้านถูกขายไปแล้ว

ตนและน้องสาวตกใจมากและไม่เข้าใจเพราะบ้านที่ถูกขายทอดตลาดเป็นชื่อพ่อ แต่พ่อไม่ได้เป็นคนค้ำประกันเป็นเพียงคู่สมรสของแม่ที่เป็นผู้ค้ำประกันและมีบ้านอยู่ติดกัน แต่กลับเลือกบ้านพ่อซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ที่สุด

 จากนี้ตนยืนยันจะเดินหน้าขอความเป็นธรรมให้กับพ่อของตนและจะนำบ้านกลับมาคืนพ่อ โดยจากนี้จะไปยื่นเรื่องที่สำนักงานปปช.แพร่ให้เข้าตรวตสอบและเข้ายื่นต่อ กยศ . ที่กรุงเทพมหานคร 

ด้านนางสาวนภาพร เยาวรัตน์ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ได้รับเรื่องไว้และได้ประสานประสานเจ้าหน้าที่จากกรมบังคับคดีชีแจงข้อเท็จจริงกรณีลำดับขั้นตอนในการยึด ทำไมไม่ยึดคนกู้คนค้ำ แต่ไปยึดบ้านคู่สมรสซึ่งเป็นพ่อ นอกนั้นยังได้ประสานสำนักงานยุติธรรมเข้ามารับเรื่องตามลำดับต่อไป