รีเซต

เปิดปัจจัยก่อวิกฤต...อิสราเอล - ปาเลสไตน์

เปิดปัจจัยก่อวิกฤต...อิสราเอล - ปาเลสไตน์
TNN World
14 พฤษภาคม 2564 ( 15:24 )
151
เปิดปัจจัยก่อวิกฤต...อิสราเอล - ปาเลสไตน์

 

ข่าววันนี้ การปะทะกันรุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ยกระดับความตึงเครียดขึ้นอีกขั้น จนตอนนี้มีผู้เสียชีวิตเกิน 100 รายแล้ว อะไรคือปัจจัยที่นำไปสู่ความรุนแรงนี้

 

 


สถานการณ์ล่าสุด อิสราเอล - ปาเลสไตน์

 


VOA รายงานว่า กองทัพอิสราเอลประกาศในวันนี้ (14 พฤษภาคม) ว่า ทหารอิสราเอลได้เริ่มบุกโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาแล้ว และโจมตีพร้อมกันทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศด้วย หลังจากที่อิสราเอลระดมเสริมกำลังทหารและกองทัพรถถัง ประชิดชายแดนที่ติดกับฉนวนกาซ่า

 


พร้อมกันนี้ อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดในฉนวนกาซาต่อเนื่องในช่วงเช้า เป็นวันที่ 5 ของการปะทะกับปาเลสไตน์ เสียงระเบิดดังสนั่นหลายครั้ง เขย่าเมืองกาซ่า ซิตี้ ส่วนบนท้องฟ้าเกิดแสงวาบหลายครั้ง จากการถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศ
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากการปะทะกันตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 113 คนแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นชาวปาเลสไตน์ ในจำนวนนี้เป็นเด็กถึง 31 คน ส่วนฝ่ายอิสราเอลเสียชีวิต 7 คน และมีผู้บาดเจ็บนับร้อยคน จากการที่กลุ่มปาเลสไตน์ฮามาสในฉนวนกาซา ระดมยิงจรวดถล่มหลายเมืองของอิสราเอล

 

 


ฮามาสยิงจรวดแล้ว 1,700 ลูก

 

 


ขณะเดียวกัน สื่อในเลบานอนรายงานว่า กลุ่มปาเลสไตน์ในเลบานอนยิงจรวดใส่อิสราเอลเมื่อคืนนี้ (13 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ด้านกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า มีจรวด 3 ลูกยิงมาจากเลบานอน มายังอิสราเอล แต่ตกลงในทะเลเมดิเตอเรเนียน นอกชายฝั่งทางเหนือของอิสราเอล

 

 


กองทัพอิสราเอลระบุด้วยว่า ฮามาสยิงจรวดข้ามพรมแดนเข้าไปในอิสราเอลแล้ว 1,700 ลูกตั้งแต่เริ่มปะทะกันเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม แต่ราว 90% ของจรวดที่ฮามาสยิงมา ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศ “โดมเหล็ก” หรือ “ไอรอนโดม” ยิงทำลายได้กลางอากาศ นอกจากนี้ อิสราเอลระบุว่า มีจรวดราว 400 ลูกที่ฮามาสยิงไปไม่ถึงในอิสราเอล แต่กลับตกลงภายในกาซ่าเอง และทำให้ชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 17 คน

 

 


ความเคลื่อนไหวฝั่งฮามาส

 

 


อาบู โอเบดา โฆษกของกองทัพฮามาส ประกาศว่า ฮามาสหาได้เกรงกลัวการบุกโจมตีภาคพื้นดินของอิสราเอลไม่ และการส่งทหารอิสราเอลบุกฉนวนกาซ่า คือโอกาสที่ฮามาสจะได้สังหารหรือจับทหารอิสราเอลเป็นเชลยศึก

 

 


ทั้งอิสราเอลและฮามาสยืนยันตรงกันว่า มีผู้บัญชาการระดับสูงของฮามาสหลายคน เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล โดยบุคคลสำคัญที่สุดที่เสียชีวิตคือ บัสเซม อิสซา ผู้นำปฏิบัติการทางทหารของฮามาสในเมืองกาซ่า ซิตี้ นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้านายทหารช่าง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาจรวด และหัวหน้าฝ่ายสงครามไซเบอร์ของฮามาส เสียชีวิตด้วย

 

 


เปิดปัจจัยเหตุใดความรุนแรงถึงได้ปะทุในช่วงเวลานี้?

 


สถานีข่าว BBC วิเคราะห์ไว้ว่า มีอย่างน้อย 6 ปัจจัย

 


ปัจจัยที่ 1 ความกังวลถึงการ “ประท้วงของชาวปาเลสไตน์” 

 


สืบเนื่องมาจากกรณีการพิจารณาคดี “6 ครอบครัวชาวปาเลสไตน์” ให้ออกไปจากชุมชนชีค จาร์ราห์ (Shiekh Jarrah) ซึ่งชาวปาเลสไตน์มองว่าเป็นความพยายามที่จะ “ขับไล่พวกเขาออกไปจากเยรูซาเลมตะวันออก จึงเกิดการปะทะกับตำรวจมาระยะหนึ่งแล้ว อีกทั้ง ยังมีประท้วงของชาวปาเลสไตน์ที่ประตูดามัสกัสในย่านชุมชนเก่าของเยรูซาเลม หลังจากที่ตำรวจอิสราเอลได้นำสิ่งกีดขวางมากั้นเอาไว้ ทำให้ชาวปาเลสไตน์ไม่สามารถทำพิธีทางศาสนาได้ 

 

 


ปัจจัยที่ 2 คือ “ปฏิทิน” 

 

 


ปีนี้ วันสิ้นสุดรอมฎอน (เทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิม) บังเอิญเกิดขึ้นพร้อมกับวันสำคัญของชาวอิสราเอลหลายวัน รวมถึง “Jerusalem Day” ซึ่งเป็นวันที่ชาวยิวขวาจัด ออกมาฉลองชัยชนะในเยรูซาเลมตะวันออก จากสงครามเมื่อปี 1967 
และพวกเขาได้เดินพาเหรดพร้อมธงอิสราเอล ไปยังพื้นที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมในชุมชนเก่า นับเป็นเรื่องที่ “ปลุกปั่น” 

 

 


ปัจจัยที่ 3 คือ เรื่องการเมือง 

 

 


นายกรัฐมนตรีแห่งอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู อยู่ภายใต้แรงกดดันจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา หลังคู่แข่งได้พยายามก่อตั้งรัฐบาลใหม่ 

 

 


ขณะที่การเมืองของปาเลสไตน์เองก็แตกแยกอย่างมาก เมื่อกลุ่มฮามาสที่ปกครองฉนวนกาซา ฟาทาห์ เขตปกครองเวสต์แบงค์ และการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป ทำให้ฮามาสไม่พอใจอย่างรุนแรง อีกทั้งยังรู้สึกแย่มากที่ถูกมองข้าม หลังจากที่สหรัฐฯ ภายใต้อดีต ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่ม “ข้อตกลงอับราฮัม” สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอล กับ UAE และ บาห์เรน เมื่อปีที่แล้ว จนทำให้ปาเลสไตน์ประณามข้อตกลงนี้

 

 


ดังนั้น การประท้วง, วันสำคัญ และการเมือง  จึงนำมาสู่ปัจจัยถัดมา

 

 


ปัจจัยที่ 4 คือ ตำรวจใช้กำลังรุนแรง

 

 


เมื่อวันจันทร์ ตำรวจอิสราเอล ปะทะกับชาวปาเลสไตน์นับพัน ที่มัสยิด “อัล อักซอ” ซึ่งเป็นมัสยิดสำคัญมาก ๆ ของชาวมุสลิม ทำให้มีคนบาดเจ็บ 300 กว่าคน และตำรวจอีกกว่า 20 คน ซึ่งนับเป็นพื้นที่อ่อนไหวที่สุดของทั้งชาวยิว และมุสลิม

 

 


ปัจจัยที่ 5 คือ กลุ่มฮามาสตอบโต้เร็ว

 

 


เมื่อกลุ่มฮามาส จับตาเหตุการณ์นี้ จึงตัดสินใจถล่มอิสราเอลทันที ทำให้อิสราเอล ยิงจรวดโต้กลับเป็นจำนวนมาก และเหตุการณ์ก็ดำเนินต่อมา  โดยมีจรวดจากฮามาสหลายร้อยลูก แลกเปลี่ยนกับการโจมตีทางอากาศนับร้อยครั้งของอิสราเอล

 

 


ปัจจัยสุดท้าย คือ การที่ผู้นำของทั้ง 2 ฝ่าย ใช้ถ้อยคำตอบโต้กันอย่างไม่ลดละ ที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

 

 


“เราจะไม่ให้กลุ่มสุดโต่งใดมาทำลายสันติสุขในเยรูซาเลม

 


เราจะบังคับใช้กฎหมายและคำสั่งอย่างเด็ดขาด และรับผิดชอบ

 

 


เราจะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า ทุกศาสนามีเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่จะไม่ยอมให้เกิดความรุนแรง” นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าว

 

 


ขณะที่ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำขบวนการฮามาส ย้ำว่า หากอิสราเอลโจมตี เราก็พร้อมโจมตีกลับ และหากอิสราเอลหยุด เราก็พร้อมจะหยุดด้วย

 



เรื่อง : ธันย์ชนก จงยศยิ่ง และ ภัทร จินตนะกุล
ภาพ : AFP

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง