รีเซต

ผอ. วอนเอาหลักฐานมาคุย หลังยายร้องครูตบหลานฟันหลุด จ่อฟ้องกลับทำร.ร.เสียหาย

ผอ. วอนเอาหลักฐานมาคุย หลังยายร้องครูตบหลานฟันหลุด จ่อฟ้องกลับทำร.ร.เสียหาย
มติชน
29 กันยายน 2565 ( 09:03 )
80

ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง อ.นาแก โต้ไม่เป็นความจริง หลังยายร้องเอาผิดครูประจำชั้น ป.1 ใช้รองเท้าตบหลานสาวจนฟันร่วง เพราะคัดไทยไม่สวย หลังเพิ่งย้ายมาเรียนกลางคันแค่ 2 วัน วอนอย่าสร้างเรื่องเท็จ ต้องมีหลักฐานผลการตรวจของแพทย์ อย่าสร้างเรื่องกล่าวหา เข้าใจรักหลาน แต่ทำโรงเรียน พร้อมครูเสื่อมเสีย หากผิดจริงพร้อมลงโทษทางวินัย แต่หากเป็นเรื่องเท็จพร้อมเอาผิดคืน ด้านตำรวจยังสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่พบหลักฐานการทำร้ายร่างกายที่จะเอาผิดครู

 

เมื่อวันที่ 29 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณี หญิง อายุ 55 ปี ชาวจ.นครพนม ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังร้องทุกข์ตำรวจ สภ.นาแก พร้อมด้วยหน่วยงานเกี่ยวข้อง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา นครพนม เขต 1 กล่าวหาว่า

 

มีครูประจำชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นาแก จ.นครพนม ทำร้ายร่างกายหลานสาว คือ น้องป้อนข้าว อายุ 7 ขวบ โดยอ้างว่าครูประจำชั้น ใช้รองเท้าตบที่ใบหน้า จนฟันร่วง 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตีที่หลัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 -20 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา

 

ภายหลังได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.นาแก และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อเอาผิดตามกฎหมายกับครูดังกล่าว จนกระทั่งอ้างว่าไม่มีความคืบหน้า จึงขอร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง

 

จากการตรวจสอบข้อมูลจากพนักงานสอบสวน สภ.นาแก จ.นครพนม พบว่า นางสาวรัชดาภรณ์ พ่อขันชาย อายุ 55 ปี ชาว ต.พุ่มแก อ.นาแก จ.นครพนม ได้มาร้องทักข์กล่าวหาครูประจำชั้นเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

เมื่อวันที่ 22 กันยายน อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยันว่าถูกทำร้ายร่างกาย จึงยังไม่สามารถดำเนินการแจ้งข้อหาเอาผิดตามกฎหมายใครได้ ต้องรอการสอบสวนทั้ง 2 ฝ่าย และยังไม่มีข้อสรุป

 

ภายหลัง  ยายน้องป้อนข้าว ซึ่งอ้างเป็นผู้เสียหาย ออกมาเปิดเผยว่า ตนย้ายหลานกลางครันจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.นาแก กลางคัน เพราะมีปัญหาเรื่องการดูแลของครู ก่อนที่จะมาเรียนโรงเรียนดังกล่าวในวันที่ 19 -20 กันยายน 2565 ไปเรียนแค่ 2 วัน กับเกิดเรื่อง หลานกลับบ้านมาฟ้องว่า ถูกครูประจำชั้นทำร้าย เหตุจากไม่พอใจที่คัดไทยลายมือไม่สวย จึงใช้รองเท้าตบที่ใบหน้า จนฟันหลุด 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตีที่หลังอีก 2 -3 ครั้ง ทำให้ตนไม่พอใจ และพาหลานไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 เพื่อนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.นาแก เพื่อดำเนินคดีกับครูประจำชั้น โดยต้องการให้โรงเรียนมาชดเชยเยียวยาเป็นเงิน 1 แสนบาท พร้อมแสดงความรับผิดชอบ ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเอาผิดครูประจำชั้นคนดังกล่าว แต่สุดท้ายถูกบ่ายเบี่ยงไม่คืบหน้า

 

ด้าน ดร.หงษา วงค์จำปา ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบถามข้อเท็จจริงตั้งแต่วันเกิดเหตุ หลังทางคุณยาย อ้างว่าหลานสาว ถูกครูประจำชั้นทำร้าย ทั้งที่ เพิ่งย้ายมาเรียนกลางคัน มาเรียนแค่ 2 วัน คือวันที่ 19 -20 กันยายน 2565

 

ภายหลังมาร้องเรียนกับทางโรงเรียนว่า หลานสาวถูกทำร้าย ครูใช้รองเท้าตบจนฟันร่วง 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตี แต่สอบถาม ครูยืนยันว่า สาเหตุที่ฟันหลุด เพราะเป็นฟันน้ำนมที่หลุดเองตามธรรมชาติ และเด็กนักเรียน ยังนำมาให้ครูดู และแนะนำให้ทิ้ง เพราะเป็นฟันน้ำนม และตรวจสอบแล้วไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ตามร่างกายเด็ก

 

แต่ไม่ทราบที่มาว่ายาย ออกมาร้องเรียนกล่าวหาว่าหลานถูกครูประจำชั้นทำร้าย เพราะเหตุใด ยืนยันไม่ได้ปกป้องลูกน้อง หากผิดจริงพร้อมดำเนินการทางวินัย และพร้อมจะให้เอาผิดตามกฎหมาย แต่มีการสอบสวนแล้ว ไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน เป็นการกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน

 

ตนเข้าใจว่า ยายรักหลานมาก แต่ต้องว่ากันด้วยความจริง เพราะสิ่งที่ทำไป ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสีย วอนอยากให้ยายทบทวน มาหารือพูดกันด้วยเหตุผล เพราะหากไม่ใช่ความจริงจะส่งผลกระทบต่อโรงเรียน ครูอาจารย์ รวมถึงตัวนักเรียนเองด้วย

 

โดยเรื่องนี้ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ครูประจำชั้นทำงานมา 3 ปี ไม่เคยมีประวัติทำร้ายนักเรียน และนักเรียนทุกคนรัก ทำงานเก่ง หากยายไม่มีเหตุผลหรือไม่พูดความจริง ตนจำเป็นต้องเอาผิดคืน เพราะทำให้โรงเรียนเกิดความเสียหาย และฝากสังคมอย่าฟังความข้างเดียว ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง