กระหน่ำโทร 1330 เหตุเข้า HI แล้ว แต่ไร้รพ.โทรกลับ วอนงดโทรตาม ช่วยลดจำนวนสาย
ข่าววันนี้ 8 มี.ค.65 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด 19 โทรเข้าระบบการดูแลรักษาผ่านสายด่วน สปสช. 1330 ไม่ติด และหลายรายที่เข้าระบบดูแลรักษาที่บ้าน (HI) แล้ว แต่รอหน่วยบริการติดต่อกลับนาน ว่า ที่ผ่านมา สปสช.ขยายศักยภาพของสายด่วน 1330 ให้รองรับการโทร เจ้าหน้าที่สายด่วนและจิตอาสาจากภาคส่วนต่างๆ เข้ามาช่วยรับสายก็ทำงานอย่างหนัก แต่ยังไม่ทันกับปริมาณสายโทรเข้าที่สูงขึ้นอย่างมาก จึงต้องขออภัยประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การโทรไม่ติดหรือสายหลุดลดลงจาก 60% เหลือ 20% แต่ตั้งเป้าให้สายหลุดลดน้อยกว่า 5%
ทั้งนี้ ตามแนวทางใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด หากไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยไปรับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน เจอ แจก จบ ได้ โดยไปรพ.ตามสิทธิหรือสถานพยาบาลภาครัฐใกล้บ้าน แต่แนะนำให้โทร.นัดหมายก่อน ส่วนกรณีต้องการลงทะเบียนรักษาที่บ้าน (HI) ลงทะเบียนได้ตามระบบที่มีของแต่ละจังหวัด หากไม่ทราบช่องทางก็ลงทะเบียนผ่านระบบของ สปสช.สายด่วน 1330 กด 14 หรือเว็บไซต์
https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือ ไลน์ สปสช. @nhso ระหว่างรอสถานพยาบาลติดต่อกลับ รักษาตัวเองตามอาการได้ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ แก้เจ็บคอ ลดน้ำมูก ดื่มน้ำมากๆ เป็นต้น
"จากการวิเคราะห์ข้อมูลสายโทรเข้า พบว่ากว่า 50% เป็นสายจากผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนเข้า HI แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการหรือรอตอบรับนานหลายวัน จึงโทรเข้ามาติดตามความคืบหน้าทำให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่โทรไม่ติดหรือลงทะเบียนได้ช้า
ซึ่งกรณียังไม่ได้รับบริการ สปสช.ได้รับเรื่องและส่งให้แต่ละหน่วยบริการทราบแล้ว จึงขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อโควิดที่ลงทะเบียนแล้ว ลดความถี่หรืองดโทรติดตาม จะช่วยลดจำนวนสายลงอย่างมาก ช่วยให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่โทรติดหรือลงทะเบียนเข้า HI ได้เร็วมากขึ้น" นพ.จเด็จกล่าว
เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนแล้วไม่ว่าจะผ่านช่องทางใด ข้อมูลจะถูกเก็บในฐานข้อมูล ไม่ต้องกังวลว่าจะตกหล่นสูญหาย เพียงแต่ปัญหารอนานหรือไม่มีหน่วยบริการตอบกลับ อาจเกิดจากขณะนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่มีมาก จนเกินศักยภาพหน่วยบริการที่จะรองรับได้หมด และต้องรอ discharge ผู้ป่วยเดิมออกไปก่อน จึงรับผู้ป่วยรายใหม่มาดูแลได้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อหลายรายต้องรอนาน
ซึ่งสธ.ขยายศักยภาพหน่วยบริการ จัดระบบบริการอื่นเป็นทางเลือก เช่น เจอ แจก จบ ให้ผู้ป่วยไปรับบริการแบบผู้ป่วยนอกใน 14 จังหวัดใกล้เคียง กทม. โดยไปใช้บริการได้ทุกสิทธิ ไม่ต้องลงทะเบียนหน่วยบริการประจำกับ รพ.นั้นๆ
นอกจากนี้ วันที่ 8 มี.ค. ทีมงานและจิตอาสาของ สปสช.จะลงพื้นที่นำยาฟ้าทะลายโจรไปกระจายให้แก่ชุมชนต่างๆ ใน กทม.กว่า 900 ชุมชน เพื่อแจกให้กับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการไม่มาก เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแล้วหน่วยบริการยังไม่ติดต่อกลับไปเกิน 5 วัน หากมีอาการเล็กน้อยก็ประสานผู้นำชุมชนเพื่อรับยาฟ้าทะลายโจรได้
"เราเข้าใจว่าเมื่อลงทะเบียนไปแล้วไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการ ทำให้มีความกังวลใจและพยายามสอบถามความคืบหน้าเป็นระยะ ต้องขออภัยที่ไม่ได้รับความสะดวก แต่ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ภาวะไม่ปกติและเกินศักยภาพที่ระบบสายด่วน 1330 จะรองรับการโทรได้หมด จึงต้องขอความร่วมมือจริงๆ ในการลดความถี่หรืองดเว้นการโทรติดตามความคืบหน้า
หากยังไม่มีหน่วยบริการตอบรับเข้าระบบ HI การลด ซึ่งจะช่วยลดปริมาณสายเข้าและทำให้โทรติดง่ายขึ้น ผู้ป่วยรายใหม่เข้ามาลงทะเบียนได้เร็วขึ้น ภาระงานเจ้าหน้าที่ที่ต้องตอบคำถามก็จะนำเวลาไปใช้ประสานหาหน่วยบริการให้ได้มากขึ้น" นพ.จเด็จ กล่าว