กรมการข้าว รับรอง "ข้าวหอมสยาม" ทางเลือกใหม่ ชาวนาไทย

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ออกมายืนยันชัดเจนว่า “ข้าวหอมสยาม” เป็นพันธุ์ข้าวที่ปลอดภัย พัฒนาผ่านกระบวนการผสมพันธุ์โดยธรรมชาติ ไม่ใช่ข้าวดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) และไม่ได้ถูกพัฒนามาเพื่อแทนที่ “ข้าวหอมมะลิ” ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลกังวลก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่าข้าวหอมสยามได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์พืช (ร.พ.2) จากกรมวิชาการเกษตรตั้งแต่ปี 2565 แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการรับรองพันธุ์โดยกรมการข้าว เพื่อผลักดันให้เป็น “ข้าวทางเลือก” คุณภาพสูงแก่เกษตรกรไทย
ข้าวหอมสยามไม่ใช่ GMO คัดเลือกสายพันธุ์ตามธรรมชาติ
ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. เปิดเผยว่า ไบโอเทค สวทช. ดำเนินงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าวร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และกรมการข้าวมากว่า 30 ปี เพื่อพัฒนาเมล็ดพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง แข็งแรง ทนโรค ทนแล้ง และตอบโจทย์สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
สำหรับ “ข้าวหอมสยาม” เป็นข้าวเจ้าหอม นุ่ม ให้ผลผลิตสูง และไวต่อแสง ปรับตัวได้ดีในพื้นที่น้ำน้อย ถูกพัฒนาตั้งแต่ปี 2553 ผ่านการผสมพันธุ์แบบธรรมชาติ ระหว่าง
• สายพันธุ์แม่ RGD03068 ซึ่งทนแล้ง
• สายพันธุ์พ่อ “แก้วเกษตร” ที่ต้านทานโรคไหม้และต้นเตี้ยไม่หักล้ม
ไม่มีการใส่ยีนจากสิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามา โดยใช้เครื่องหมายดีเอ็นเอช่วยคัดเลือกลักษณะเด่น ซึ่งเป็นเทคนิคมาตรฐานระดับโลกในการคัดเลือกพันธุ์พืช
อยู่ระหว่างการรับรองพันธุ์จากกรมการข้าว
สวทช. ระบุว่า กระบวนการรับรองพันธุ์ข้าวใหม่ต้องผ่านการทดสอบหลายพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อให้มั่นใจว่า
- ให้ผลผลิตสม่ำเสมอ
- มีเสถียรภาพในสภาพแวดล้อมต่างกัน
- ตอบสนองต่อปุ๋ยเหมาะสม
- ทนโรค แมลง และมีคุณภาพเมล็ดตามมาตรฐาน
ข้าวหอมสยามได้ถูกนำไปปลูกทดสอบตั้งแต่ปี 2563 ในหลายจังหวัด ทั้งอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ก่อนขยายพื้นที่ไปยัง 12 จังหวัดในภาคเหนือและอีสานตอนบน รวม 21 ไร่ พบว่าเกษตรกรให้ความสนใจ เพราะเป็นพันธุ์เตี้ย ลำต้นแข็งแรง ลดความเสียหายจากการหักล้ม
ปี 2567 ข้าวหอมสยามถูกทดสอบในจังหวัดพิจิตรและพบว่าสามารถให้ผลผลิตได้สูงกว่า 800 กิโลกรัมต่อไร่
นอกจากนี้ สวทช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังได้รับใบอนุญาต พ.พ.1 สำหรับการรวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า ซึ่งยืนยันกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมาย
พัฒนาต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถข้าวไทย
ศ.ชูกิจ ระบุว่า การพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ เป็นกลไกสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ และความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก โดยข้าวหอมสยามมีจุดแข็งสำคัญ ได้แก่
- ผลผลิตสูง
- ลำต้นแข็งแรง ไม่ล้มง่าย
- ต้านทานโรค
- ทนสภาวะแห้งแล้ง
- คุณภาพการหุงต้มดี มีกลิ่นหอม
- เมล็ดข้าวขัดขาวตรงความต้องการของตลาด
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ข้าวหอมสยามเป็นพันธุ์ที่ตอบโจทย์ทั้งตลาดเกษตรกรและผู้บริโภคที่ต้องการข้าวคุณภาพสูงหลากหลายชนิด
สวทช. มั่นใจ “ข้าวหอมสยาม” สร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรไทย
สวทช. ย้ำว่า การพัฒนาข้าวหอมสยามเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อผลักดันให้ข้าวหอมสยามสามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างเป็นทางการ และเป็น “ผลิตภัณฑ์แข่งขันได้ในตลาดโลก” ช่วยสร้างทางเลือกใหม่ ลดความเสี่ยงจากผลผลิต และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
ข้าวหอมสยามจึงถือเป็นพันธุ์ข้าวศักยภาพสูงที่กำลังก้าวสู่การรับรองขั้นสุดท้าย พร้อมวางตำแหน่งเป็นข้าวคุณภาพดี เพื่อเสริมแกร่งให้กับอุตสาหกรรมข้าวไทยในระยะยาว.
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
