รีเซต

กรมการข้าว รับรอง "ข้าวหอมสยาม" ทางเลือกใหม่ ชาวนาไทย

กรมการข้าว รับรอง "ข้าวหอมสยาม"  ทางเลือกใหม่ ชาวนาไทย
TNN ช่อง16
20 พฤศจิกายน 2568 ( 16:38 )
5

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ออกมายืนยันชัดเจนว่า “ข้าวหอมสยาม” เป็นพันธุ์ข้าวที่ปลอดภัย พัฒนาผ่านกระบวนการผสมพันธุ์โดยธรรมชาติ ไม่ใช่ข้าวดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) และไม่ได้ถูกพัฒนามาเพื่อแทนที่ “ข้าวหอมมะลิ” ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลกังวลก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่าข้าวหอมสยามได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์พืช (ร.พ.2) จากกรมวิชาการเกษตรตั้งแต่ปี 2565 แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการรับรองพันธุ์โดยกรมการข้าว เพื่อผลักดันให้เป็น “ข้าวทางเลือก” คุณภาพสูงแก่เกษตรกรไทย

ข้าวหอมสยามไม่ใช่ GMO คัดเลือกสายพันธุ์ตามธรรมชาติ


ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. เปิดเผยว่า ไบโอเทค สวทช. ดำเนินงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าวร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และกรมการข้าวมากว่า 30 ปี เพื่อพัฒนาเมล็ดพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง แข็งแรง ทนโรค ทนแล้ง และตอบโจทย์สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง


สำหรับ “ข้าวหอมสยาม” เป็นข้าวเจ้าหอม นุ่ม ให้ผลผลิตสูง และไวต่อแสง ปรับตัวได้ดีในพื้นที่น้ำน้อย ถูกพัฒนาตั้งแต่ปี 2553 ผ่านการผสมพันธุ์แบบธรรมชาติ ระหว่าง

 • สายพันธุ์แม่ RGD03068 ซึ่งทนแล้ง

 • สายพันธุ์พ่อ “แก้วเกษตร” ที่ต้านทานโรคไหม้และต้นเตี้ยไม่หักล้ม


ไม่มีการใส่ยีนจากสิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามา โดยใช้เครื่องหมายดีเอ็นเอช่วยคัดเลือกลักษณะเด่น ซึ่งเป็นเทคนิคมาตรฐานระดับโลกในการคัดเลือกพันธุ์พืช



อยู่ระหว่างการรับรองพันธุ์จากกรมการข้าว


สวทช. ระบุว่า กระบวนการรับรองพันธุ์ข้าวใหม่ต้องผ่านการทดสอบหลายพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อให้มั่นใจว่า

- ให้ผลผลิตสม่ำเสมอ

- มีเสถียรภาพในสภาพแวดล้อมต่างกัน

- ตอบสนองต่อปุ๋ยเหมาะสม

- ทนโรค แมลง และมีคุณภาพเมล็ดตามมาตรฐาน


ข้าวหอมสยามได้ถูกนำไปปลูกทดสอบตั้งแต่ปี 2563 ในหลายจังหวัด ทั้งอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ก่อนขยายพื้นที่ไปยัง 12 จังหวัดในภาคเหนือและอีสานตอนบน รวม 21 ไร่ พบว่าเกษตรกรให้ความสนใจ เพราะเป็นพันธุ์เตี้ย ลำต้นแข็งแรง ลดความเสียหายจากการหักล้ม


ปี 2567 ข้าวหอมสยามถูกทดสอบในจังหวัดพิจิตรและพบว่าสามารถให้ผลผลิตได้สูงกว่า 800 กิโลกรัมต่อไร่


นอกจากนี้ สวทช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังได้รับใบอนุญาต พ.พ.1 สำหรับการรวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า ซึ่งยืนยันกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมาย

พัฒนาต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถข้าวไทย


ศ.ชูกิจ ระบุว่า การพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ เป็นกลไกสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ และความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก โดยข้าวหอมสยามมีจุดแข็งสำคัญ ได้แก่

 - ผลผลิตสูง

- ลำต้นแข็งแรง ไม่ล้มง่าย

- ต้านทานโรค

- ทนสภาวะแห้งแล้ง

- คุณภาพการหุงต้มดี มีกลิ่นหอม

- เมล็ดข้าวขัดขาวตรงความต้องการของตลาด


คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ข้าวหอมสยามเป็นพันธุ์ที่ตอบโจทย์ทั้งตลาดเกษตรกรและผู้บริโภคที่ต้องการข้าวคุณภาพสูงหลากหลายชนิด


สวทช. มั่นใจ “ข้าวหอมสยาม” สร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรไทย


สวทช. ย้ำว่า การพัฒนาข้าวหอมสยามเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อผลักดันให้ข้าวหอมสยามสามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างเป็นทางการ และเป็น “ผลิตภัณฑ์แข่งขันได้ในตลาดโลก” ช่วยสร้างทางเลือกใหม่ ลดความเสี่ยงจากผลผลิต และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร


ข้าวหอมสยามจึงถือเป็นพันธุ์ข้าวศักยภาพสูงที่กำลังก้าวสู่การรับรองขั้นสุดท้าย พร้อมวางตำแหน่งเป็นข้าวคุณภาพดี เพื่อเสริมแกร่งให้กับอุตสาหกรรมข้าวไทยในระยะยาว.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง