'สุทิน' รับหนังสือ คณะขับเคลื่อนเงินอุดหนุนเด็กเล็กฯ เผย 'ฝ่ายค้าน' เห็นพ้องไม่ให้ผ่านงบ'66
ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 09.30 วันที่ 24 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นางสุนี ไชยรส ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการการเงินอุดหนุนเด็กเล็กสู่ถ้วนหน้า 340 องค์กร ยื่นหนังสือถึงพรรคร่วมฝายค้านผ่านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เพื่อขอให้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2566 เพื่อให้มีเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า ทั้งที่มีการดำเนินโครงการเงินอุดหนุนตามมติการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (กดยช.) เมื่อปี 2563 ที่สนับสนุนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า ภายในปีงบประมาณ 2565 แก่เด็กอายุ 0-6 ปี คนละ 600 บาทต่อเดือน
จากนั้นนายสุทินให้สัมภาษณ์ว่า ทางกลุ่มมายื่นหนังสือเพื่อขอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านและ ส.ส.พิจารณาและจัดสรรงบประมาณตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนและถูกบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลละเลยมาโดยตลอด ดังนั้น จึงต้องทักท้วงและขอกันอีก โดยการพิจารณาภาพรวมของร่างงบประมาณปี 2566 เป็นการจัดงบประมาณที่ไม่มีความหวังทำให้ประเทศฟื้น และไม่มีความหวังที่จะหลุดพ้นจากภาวะตกต่ำเพราะ 1.จัดงบไม่ตรงกับปัญหา และ 2.จัดงบประมาณน้อย ไม่เพียงพอที่จะอัดฉีดให้ระบบฟื้นตัวได้เหมือนกับคนที่ต้องการเลือด 6 ลิตร แต่วันนี้รัฐบาลจัดเลือดไปเพียงลิตรกว่า
นายสุทินกล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคได้หารือกันเบื้องต้นและเห็นตรงกันที่จะไม่เห็นชอบให้ผ่านร่างงบประมาณฉบับนี้ แต่ก็จะขอฟังคำชี้แจงจากรัฐบาล หากสามารถชี้แจงได้ดีและเกิดความคิดเกิดความหวัง ไม่แน่เราก็อาจจะกลับมติ
เมื่อถามว่าหมายความว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติที่จะคว่ำร่างฉบับนี้ใช่หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ไม่ถึงกับเป็นมติ เป็นแค่แนวทางร่วมกันที่เห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่ให้ผ่าน เพราะยังไม่ได้ฟังคำชี้แจงจากรัฐบาล
เมื่อถามว่าที่ระบุว่าเลือดไม่พอนั้น หมายความว่าเป็นงบประมาณส่วนไหน นายสุทินกล่าวว่า งบประมาณน้อยทั้งที่ขณะนี้เม็ดเงินในระบบแทบไม่มี ทั้งเงินเฟ้อและฝืด งบประมาณไม่เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนที่ควรเป็น ซึ่งติดปัญหาเรื่องเพดานเงินกู้ แต่รัฐบาลควรหาวิธีเพื่อก้าวข้ามปัญหานี้ ไม่ใช่ว่าติดแล้วก็ไม่จัดงบเพิ่ม และงบก็น้อยลงเหมือนคนขาดเลือดทั้งที่งบประมาณควรจะเพิ่มทุกปี ทั้งที่ไม่ใช่เวลาที่จะมาประหยัดงบ หากประหยัดก็ต้องไปประหยัดด้านอื่นที่ควรประหยัด สถานการณ์แบบนี้ควรจะจัดงบลงทุนเพิ่ม แต่ก็ไม่ทำ
เมื่อถามว่าเท่าที่พิจารณาดูงบประมาณของแต่ละกระทรวง กระทรวงใดควรลดและกระทรวงใดควรเพิ่ม นายสุทินกล่าวว่า งบประมาณก็อยู่ที่กระทรวงกลาโหม และงบกลางที่จัดไว้แบบไม่มีคำอธิบาย