รีเซต

ส่องทิศทางทองคำปี'68 จับตาทรัมป์-เฟด-จีน สามปัจจัยเขย่าตลาด

ส่องทิศทางทองคำปี'68 จับตาทรัมป์-เฟด-จีน สามปัจจัยเขย่าตลาด
TNN ช่อง16
30 ธันวาคม 2567 ( 15:57 )
12

ทองคำปี'68 เผชิญสามแรงกดดัน เสี่ยงผันผวนรับทรัมป์นั่งขาว-นโยบายเฟด-เศรษฐกิจจีน


ทองคำสร้างปรากฏการณ์โดดเด่นในปี 2567 ด้วยการปรับตัวขึ้นถึง 27% นับจากต้นปี ท่ามกลางปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่ และแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นจากธนาคารกลางทั่วโลก


สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แม้ราคาทองคำจะชะลอตัวลงบ้างหลังชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน แต่เมื่อมองภาพรวมตลอดปี 2567 ทองคำยังคงทำผลงานได้โดดเด่นกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มโลหะพื้นฐานที่ประสบปัญหาความผันผวนอย่างหนัก ทั้งราคาแร่เหล็กและลิเทียมที่ทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม มุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในปี 2568 กำลังเผชิญความท้าทายจากสามปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินสหรัฐฯ ความเสี่ยงจากความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นเมื่อทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว และความพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด


ที่น่าสนใจคือ การปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาทองคำในปีนี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงพลวัตของตลาด เนื่องจากราคาทองคำยังคงแข็งแกร่งแม้จะเผชิญปัจจัยกดดันที่สำคัญอย่างการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐและการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งโดยปกติถือเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ


เดวิด สคัตต์ นักวิเคราะห์จากบริษัทสโตนเอ็กซ์ กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำสร้างความประหลาดใจอย่างมากในปี 2567 ด้วยการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของตลาดทองคำที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่โลหะประเภทอื่นส่วนใหญ่กลับเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะราคาแร่เหล็กที่ได้รับผลกระทบจากภาคการก่อสร้างที่อ่อนแอ และราคาลิเทียมที่มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นปีที่สอง



ภาพ Freepik 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง