'ฟอร์ด' ทุ่ม 4 หมื่นล้านผลิตรถรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ
วันนี้( 18 ธ.ค.62) บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ในสหรัฐ ประกาศลงทุนร่วม 1,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 43,000 ล้านบาท ในโรงงานสองแห่งที่เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน
โดยในจำนวนนี้เป็นการลงทุน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโรงงานในเมือง เดียร์บอน เพื่อผลิตรถกระบะรุ่นใหม่ F-150 ที่เป็นส่วนของเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไฮบริด พร้อมจะเริ่มต้นประกอบแบตเตอร์รีสำหรับกระบะไฮบริดและไฟฟ้าในปี 2020
ขณะที่งบการลงทุนอีกก้อน 750 ล้านดอลลาร์ จะเป็นการลงทุนที่โรงงานเวย์น เพื่อมุ่งผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ SUV และรถกระบะ โดยจะมีการจ้างงานเพิ่มอีกราว 2,700 อัตรา ตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า
การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ฟอร์ดประกาศจะลงทุน 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนารถยนต์ไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า 40 รุ่น ภายในปี 2022
ทั้งนี้ ค่ายรถยนต์ทั่วโลกต่างพยายามปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จากเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง เช่น เบนซินและดีเซล มาเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าแต่ต้นทุนในการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถยนต์ขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ ยังอยู่ในระดับที่สูงจนทำให้ค่ายรถยนต์บางรายต้องมองหาหุ้นส่วน เพื่อลดต้นทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว เช่น กรณีของ ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น ที่ได้เข้าลงทุนในรถยนต์ไร้คนขับของ General Motors ผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐ
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand